ย่าน้องอลิสน้ำตาร่วง หลังศาลสั่งจำคุก 3 คุณครู คนละ 1 ปี 6 เดือน ปรับ 25,000 บาท แต่ให้รอลงอาญา

ย่าน้องอลิสน้ำตาร่วง หลังศาลสั่งจำคุก 3 คุณครู คนละ 1 ปี 6 เดือน ปรับ 25,000 บาท แต่ให้รอลงอาญา

View icon 259
วันที่ 18 ธ.ค. 2567 | 19.30 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ย่าน้องอลิสน้ำตาร่วง หลังศาลจังหวัดศรีสะเกษ สั่งจำคุก 3 คุณครู คนละ 1 ปี 6 เดือน ปรับ 25,000 บาท แต่ให้รอลงอาญา เผย มอบให้ทนาย ยื่นอุทธรณ์ต่อ เพราะตนยังคาใจ ที่น้องอลิส ไม่น่าจะเดินไปจมน้ำตายเองได้

ย้อนอดีตคดีใหญ่ ที่สะเทือนขวัญของคนศรีสะเกษ และคนทั้งประเทศ ที่เกิดขึ้นที่ อำเภอยางชุมน้อย จังหวัดศรีสะเกษ น้องอลิส ที่ยังคาใจว่า น้อง อายุ 3 ขวบ จะเดินจากศูนย์เด็ก ไปพบจมน้ำเสียชีวิต เมื่อ 14 มิถุนายน 2567
วันที่ 18 ธันวาคม 2567 ที่ ศาลจังหวัดศรีสะเกษ อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ วันนี้ศาลออ่านคำพิพากษา คดีของน้องอลิส ในความผิดของครูศูนย์ทั้ง 3 คน ว่า ประมาทจนทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย โดยมีบทลงโทษ จำคุก 3 ปี ปรับคนละ 50,000.-บาท ขณะที่ครูให้การรับสารภาพ ศาลจึงลดโทษลง ครึ่งหนึ่ง ประกอบกับไม่เคยกระทำมาก่อน จึงให้โทษดังกล่าว รอลงอาญา ไว้ จำนวน 2 ปี ซึ่งย่าน้องอลิส ได้ฟังรับคำพิพากษา ถึงกับเข่าอ่อน กลับมาถึงบ้าน พบเห็นกระเป๋า ชุดนักเรียนของน้องอลิส ถึงกับร้องไห้ออกมา เพราะทุกวันยังคิดถึงน้อง ยืนยันมอบทนายยื่นอุทรณ์ ถึงที่สุด

นางทองทิพย์ มณีวงษ์ ย่าของน้องอลิส เล่าทั้งน้ำตา พาไปดูชุดนักเรียนของน้องอลิส กระเป๋า ก่อนเปิดเผยว่า วันนี้ตนได้เดินทางไปศาลจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อไปรับฟังคำพิพากษาของศาล โดยศาลอ่านคำพิพากษาลงโทษครู ทั้ง 3 คน จำคุก 3 ปีและปรับ 50,000 บาท ครูรับสารภาพ ศาลจึงลดโทษลงเหลือครึ่งหนึ่ง คือ จำคุก 1 ปี 6 เดือน และปรับคนละ 25,000.-บาท ประกอบครูทั้ง 3 คน ไม่เคยต้องโทษ ไม่เคยกระทำผิดในข้อหาประมาท จนทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ศาลจึงมีคำสั่งรอลงอาญา ครู ทั้ง 3 คน 2 ปี ความรู้สึกตนไม่พอใจเท่าไหร่ เพราะไม่สมเหตุสมผล จึงได้มอบให้ทนาย ยื่นอุทธรณ์ต่อ ตนก็รู้สึกเสียใจอยู่ที่ศาลตัดสินแบบนี้ เพราะตนยังคาใจ ที่น้องอลิส ไม่น่าจะเดินไปจมน้ำตายเองได้ ก็ยังเสียใจอยู่ แต่ศาลท่านก็ว่าไปตามหลักฐาน ต้องยอมรับ และยังต้องทำเรื่องฟ้ององค์การบริหารส่วนตำบลคอนกาม เพราะว่าทางผู้พิพากษา แนะนำบอกว่า ทำเรื่องฟ้องครูไม่ได้ ต้องทำเรื่องฟ้องหน่วยงาน กรณีการเรียกร้องต่อค่าความเสียหาย ร้องจากหน่วยงาน คือ อบต.คอนกาม ซึ่งได้มาฟังคดีแพงฟ้อง อบต.ในวันที่ 3 กพ.2568 ทางคดีแพ่ง ที่ตนเสียใจก็คือ จากสำนวนของตำรวจ ไม่ได้กล่าวถึงในที่เด็กเดินไปเองไม่ได้ ไปเพียงลำพังคนเดียว เพราะไม่ใช่ทางที่เด็กจะเดินไปได้ เป็นไปไม่ได้ ตนเองยังไงก็คาใจเรื่องนี้ แต่ก็เคารพในการตัดสินใจของศาล ในเรื่องโทษมันก็เบาเกินไป ตนก็จะสู้ต่อจนถึงที่สุด

ขณะเดียวกัน วันนี้ที่ศูนย์เด็กวัดบ้านค้อทอง ตำบลคอนกาม อำเภอยางชุมน้อย จังหวัดศรีสะเกษ ภายหลังจากได้ทำการปรับปรุง 1 เดือนหลังเกิดเหตุ ให้มีรั้วรอบขอบชิด มีกล้องวงจรปิด มีประตูทางเข้าออกเพียง 1 ทาง ก็ได้เปิดรับเด็กเข้ามาอยู่เรียนตามเดิมแล้ว ขณะเดียวกันก็พบว่า ครูน้อย, ครูนุ่ย ได้มาสอน มาดูแลเด็กดั่งเดิม ส่วนครูปูเป้ นั้น ได้ไปสอนและดูแลเด็กที่ศูนย์บ้านคอนกาม ตามคำสั่งของ นายก อบต.คอนกาม แม้จะต้องคดีแล้วก็ตาม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง