เวลา 12.44 น. วันนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยังท่าอากาศยานนานาชาติขอนแก่น อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ทรงเปิดอาคารที่พักผู้โดยสารหลังใหม่ ซึ่งท่าอากาศยานนานาชาติขอนแก่น กรมท่าอากาศยาน กระทรวงคมนาคม จัดสร้างขึ้น เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องโนโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้รองรับการเดินทางของประชาชนได้อย่างครอบคลุมตามยุทธศาสตร์ชาติ ด้านส่งเสริมการคมนาคมขนส่งและโลจิสติกส์ และเพิ่มศักยภาพในการรองรับผู้โดยสาร ด้วยจังหวัดขอนแก่น อยู่บริเวณศูนย์กลางของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ปัจจุบัน มีฐานะเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งของประเทศ และเป็นเมืองไมซ์ (MICE City) รองรับกิจกรรมทั้งการประชุม, การค้าและการลงทุน, การศึกษา, การแพทย์ ตลอดจนเป็นศูนย์กลางทางเทคโนโลยีของภูมิภาค
โอกาสนี้ ทอดพระเนตรนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งจัดแสดงพระอัจฉริยภาพ และพระปรีชาสามารถด้านการบิน และนิทรรศการเกี่ยวกับการจัดสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารหลังใหม่ เริ่มก่อสร้างในเดือนสิงหาคม 2561 แล้วเสร็จเมื่อเดือนพฤษภาคม 2566 มีอาคารจอดรถยนต์สามารถรองรับได้ 1,000 คัน ภายในอาคารที่พักผู้โดยสาร สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 2,000 คน ต่อชั่วโมง หรือ 5 ล้านคนต่อปี โดยมีห้องผู้โดยสารขาเข้า-ขาออก ภายในประเทศและระหว่างประเทศ, ที่ทำการสำนักงานท่าอากาศยานขอนแก่น, สำนักงานสายการบิน, ห้องจำหน่ายบัตรโดยสาร, ร้านอาหารว่างและเครื่องดื่ม, ร้านแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ และร้านค้า จุดบริการรถขนส่งสาธารณะ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ
เวลา 13.07 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ไปยังอาคารศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ในการพระราชทานปริญญาบัตร แก่ผู้สำเร็จการศึกษา ประจำปีการศึกษา 2566 เป็นวันแรก
โอกาสนี้ พระราชทานปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ แก่ผู้ทรงคุณวุฒิ 5 คน พระราชทานรางวัลพระธาตุพนมทองคำ, รางวัลศาสตราจารย์เกียรติคุณ สาขาวิชาเคมี, รางวัลศิษย์เก่าดีเด่น, รางวัลศรีมอดินแดง และรางวัลศรีกาลพฤกษ์ โดยมีผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก, ประกาศนียบัตรบัณฑิตชั้นสูง, ปริญญาโท และปริญญาตรี เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร รวม 2,973 คน
ในการนี้ พระราชทานพระราโชวาท ความว่า "ความสำเร็จของบัณฑิตในวันนี้ เป็นสิ่งแสดงถึงความมุ่งมั่นพากเพียร ในการศึกษาหาความรู้ของแต่ละคน อาจกล่าวได้ว่า ความสำเร็จดังกล่าวนำมาซึ่งเกียรติของบัณฑิต อันสร้างความภาคภูมิใจให้แก่ตนเองและครอบครัวได้ ต่อจากนี้ หากแต่ละคนสามารถนำวิชาความรู้ที่ได้ร่ำเรียนมา ไปพัฒนาตนเองและสังคมให้ก้าวหน้า ตลอดจนใช้ทักษะความเชี่ยวชาญเฉพาะตน ในการทำงานสร้างตัวสร้างฐานะ และแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ในชีวิตและกิจการงานได้ด้วยดี ก็จะได้รับเกียรติ และความสำเร็จที่สูงขึ้น ทั้งในด้านคุณวุฒิ ฐานะความเป็นอยู่ และอาชีพการงาน ส่วนเกียรติและความสำเร็จที่สูงสุด คือการเป็นผู้สามารถสร้างสรรค์ประโยชน์ และความสุข ความเจริญที่ยั่งยืนแท้จริง ให้แก่ตนเอง สังคม และชาติบ้านเมืองได้นั้น จะเกิดมีขึ้นได้ด้วยการที่แต่ละคน ดำเนินชีวิตและกิจการงานบนพื้นฐานของความถูกต้อง ด้วยความเชื่อมั่นในความดีอยู่เสมอ โดยไม่ย่อท้อต่อปัญหาและอุปสรรคใด ๆ จึงขอให้บัณฑิตนำสิ่งที่พูดนี้ไปพิจารณาให้เข้าใจ แล้วยึดถือเป็นแนวทางที่จะมุ่งมั่นพากเพียรปฏิบัติต่อไปในวันข้างหน้า"
หลังเสร็จสิ้น พิธีพระราชทานปริญญาบัตร เสด็จออก ณ ห้องโถงอาคารศูนย์ประชุมอเนกประสงค์ กาญจนาภิเษก พระราชทานถ้วยรางวัลแก่ผู้ชนะการประกวดดนตรีไทย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือครั้งที่ 21 ประจำปีการศึกษา 2564 และครั้งที่ 22 ประจำปีการศึกษา 2565
พระราชทานถ้วยรางวัลแก่ผู้ชนะเลิศการประกวด การแสดงพื้นบ้านสร้างสรรค์ "อีสานสำแดงศิลป์" ระดับมัธยมศึกษา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ครั้งที่ 1
แล้วพระราชทานพระราชวโรกาสให้ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพล นำคณะผู้บริหารและบุคลากรทางการแพทย์ โรงพยาบาลพล อำเภอพล จังหวัดขอนแก่น เฝ้าทูลละอองพระบาททูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงิน โดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย
กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา นำ นายเฉลิม อ่อนละมัย เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายโฉนดที่ดิน เพื่อใช้ประโยชน์ในกิจกรรมของมูลนิธิชัยพัฒนา