แจ้งข้อหาคนเมาแล้วขับ ตัดหน้ารถพยาบาล จ.น่าน

View icon 125
วันที่ 19 ธ.ค. 2567 | 11.22 น.
ห้องข่าวภาคเที่ยง
แชร์
ห้องข่าวภาคเที่ยง - เมาแล้วขับ แถมยังฝ่าไฟแดง ไปชนกับรถพยาบาล ทำเอาทั้งพยาบาลบาดเจ็บ และคนไข้เดือดร้อนจากจะถึงโรงพยาบาลเร็ว ต้องมาเสียเวลาเพราะอุบัติเหตุ

แจ้งข้อหาคนเมาแล้วขับ ตัดหน้ารถพยาบาล จ.น่าน
อุบัติเหตุนี้เกิดขึ้นเมื่อ ช่วงเกือบ 22.00 น. เมื่อคืนที่ผ่านมา รถพยาบาลของโรงพยาบาลเวียงสา ชนเข้ากับรถกระบะสีดำ บน 3 แยกสนามกีฬาองค์การบริหารส่วน จังหวัดน่าน ในตัวเมืองน่าน ซึ่งอุบัติเหตุนี้เกิดจากการที่ รถกระบะฝ่าไฟแดงตัดหน้ารถพยาบาล

ทำให้คนที่มากับรถพยาบาล มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย เป็นเจ้าหน้าที่พยาบาล มีบาดแผลฉีกขาดที่ขา ถูกนำส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลน่าน ตอนนี้อาการปลอดภัยแล้ว ส่วนผู้ป่วยที่มากับรถพยาบาล ก็มีรถโรงพยาบาลของโรงพยาบาลน่านมารับตัวไปรักษาต่อ แต่ต้องเช็กอาการเพิ่มเติม เพราะตอนเกิดอุบัติเหตุคนไข้พลัดตกเตียงคนไข้

ตำรวจ สภ.เมืองน่าน ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ คนขับรถพยาบาลก็ให้การว่า ได้ขับรถนำผู้ป่วยจากโรงพยาบาลเวียงสา เพื่อส่งรักษาที่โรงพยาบาลน่าน มาถึงจุดเกิดเหตุเป็นทางร่วมทางแยก มีไฟเขียว-ไฟแดง ส่วนของรถพยาบาลเป็นสัญญาณไฟเขียว และมีการเปิดไฟสัญญาณไฟวับวาบ และเสียงไซเรน จู่ ๆ รถกระบะคันดังกล่าวฝ่าไฟแดงแล้วก็เลี้ยวตัดหน้าจึงชนกันดังกล่าว

ส่วนคนขับรถกระบะถูกตำรวจเชิญตัวไปที่โรงพัก แต่ไม่อนุญาตให้นักข่าวบันทึกภาพ โดยอ้างว่าเป็นสิทธิของผู้ต้องหา แต่ดูสภาพแล้วยืนแทบไม่ตรง เอนไปเอนมา จึงจับตรวจแอลกอฮอล์ พบว่าสูงถึง 214 มิลลิกรัมเปอร์เซนต์

และเช้าที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวย้อนไปที่โรงพักอีกรอบ พบว่าตอนนี้มีการสอบปากคำเพิ่มเติมคนขับรถกระบะ รวมถึงรอให้คนขับกระบะอาการดีขึ้นก่อน เพราะตอนนี้มีอาการแน่นหน้าอก แต่เรื่องเมาแล้วขับตำรวจรวบรวมหลักฐานไว้หมดแล้ว และเตรียมจะดำเนินคดีตามกฏหมายแน่นอน

คุมตัวพระเมาแล้วขับ ส่งฟ้องศาลฯ จ.ร้อยเอ็ด
อีกคดีเมาแล้วขับไปที่ร้อยเอ็ด คราวนี้เป็นพระสงฆ์ โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตอน 00.15 น. ที่ผ่านมา บริเวณถนนบายพาส แยก กกต. อำเภอเมืองร้อยเอ็ด เมาแล้วขับไม่พอยังไปทะเลาะกับตำรวจอีก เรียกว่าวุ่นวายเหลือเกิน

สุดท้ายตำรวจเกลี้ยกล่อมให้หลวงพ่อไปโรงพักเพื่อขอตรวจวัดแอลกอฮอล์ แต่ไม่วายถูกด่าอีกรอบว่า "เก่งแต่กับพระ ไม่เคยเก่งจับโจรเลย" ซึ่งจากการพูดคุยทราบว่าพระรูปนี้มีชื่อว่าพระบุญครอง อายุ 67 ปี เป็นชาวกาฬสินธุ์ พูดจาวกวนจับใจความได้แค่ว่าขับรถมาจากต่างจังหวัดแต่ไม่รู้ว่าจังหวัดใด และกำลังไปหาเพื่อนที่ร้อยเอ็ด

สุดท้ายหลวงพ่อเป่าวัดแอลกอฮอล์ ได้ 148 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ตำรวจจึงนิมนต์ไปสึกเมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา เพื่อดำเนินคดีข้อหาเมาแล้วขับ และในวันนี้ก็จะมีการคุมตัวส่งฟ้องศาลต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง