น้ำท่วมใต้ เหลือที่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ประชาชนได้รับผลกระทบ 90,735 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 16 ราย
วันนี้ (19 ธ.ค. 67) ปภ.เผยมีสถานการณ์อุทกภัยใน 2 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช รวม 37 อำเภอ 178 ตำบล 1,122 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 90,735 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 16 ราย เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัย ยังคงสูบระบายน้ำออกจากพื้นที่ช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ
นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่าจากสถานการณ์ความกดอากาศสูงกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากประเทศจีน ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ทําให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากระหว่างวันที่ 22 พ.ย. - 19 ธ.ค. 67 เกิดสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 11 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง ตรัง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส รวม 118 อำเภอ 790 ตำบล 5,841 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 779,145 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 46 ราย ปัจจุบันยังมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 2 จังหวัด รวม 37 อำเภอ 178 ตำบล 1,122 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 90,735 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต
16 ราย ได้แก่
1.จังหวัดสุราษฎร์ธานี เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 17 อำเภอ ได้แก่ อ.ท่าชนะ อ.ไชยา อ.ท่าฉาง อ.เมืองฯ อ.กาญจนดิษฐ์ อ.ดอนสัก อ.บ้านนาสาร อ.เกาะพงัน อ.เกาะสมุย อ.วิภาวดี อ.เคียนซา อ.เวียงสระ อ.บ้านนาเดิม อ.พุนพิน อ.คีรีรัฐนิคม อ.พระแสง และอ.พนม รวม 109 ตำบล 811 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 35,458 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 8 ราย ปัจจุบันแม่น้ำตาปีมีระดับน้ำลดลง
2.จังหวัดนครศรีธรรมราช เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 20 อำเภอ ได้แก่ อ.ขนอม อ.สิชล อ.ท่าศาลา อ.พิปูน อ.พรหมคีรี อ.ฉวาง อ.เมืองฯ อ.ลานสกา อ.พระพรหม อ.ปากพนัง อ.นาบอน อ.ร่อนพิบูลย์ อ.เฉลิมพระเกียรติ อ.ทุ่งสง อ.เชียรใหญ่ อ.จุฬาภรณ์ อ.หัวไทร อ.บางขัน อ.ชะอวด และอ.ทุ่งใหญ่ รวม 69 ตำบล 311 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 55,277 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 8 ราย ปัจจุบันคลองท่าดีระดับน้ำลดลง
สำหรับการให้ความช่วยเหลือประชาชน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ส่งเจ้าหน้าที่และเครื่องจักกลสาธารณภัย อาทิ เครื่องสูบน้ำ รถสูบน้ำระยะไกล รถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย รถผลิตน้ำดื่ม รถปฏิบัติการบรรเทาอุทกภัย เรือท้องแบน พร้อมเครื่องยนต์ เฮลิคอปเตอร์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย KA 32 เข้าช่วยเหลือในพื้นที่และยังคงคิดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดพร้อมทั้งประสานการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน นอกจากนี้ ปภ.ได้กำชับให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเร่งประสานจังหวัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสำรวจและจัดทำบัญชีความเสียหาย เพื่อดำเนินการให้ความช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ และระเบียบอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไป