ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ลูกสาวร้องสายไหมต้องรอด หลังสงสัยว่าแม่และยาย ถูกพี่สะใภ้วางยา คาดเป็น "ไซยาไนด์" หลังมากู้ยืมเงินแม่และยายหลายครั้ง ก่อนออกอุบายชวนยายไปข้างนอก แล้วให้กินน้ำอัดลม จนยายเกิดอาการหน้ามืดหมดสติหัวใจหยุดเต้น หวิดเสียชีวิต ส่วนแม่ไม่รอด
อ้างวางยา "แม่-ยาย" เลียนแบบ "แอม ไซยาไนด์"
นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พร้อมทีมงาน ได้พา นางยุภาภรณ์ อายุ 30 ปี ลูกสาวผู้เสียชีวิต และ นางช่วย ผู้เป็นยาย เดินทางมาที่กระทรวงสาธารณสุข เข้าพบ ดร.ธนกฤต จิตรอารีรัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณะสุข เพื่อขอให้ตรวจสอบผลการรักษาอย่างละเอียด หลังเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายนที่ผ่านมา "นางหญิง" ซึ่งผู้ต้องสงสัย และเป็นลูกสะใภ้ของนางช่วย ได้ชักชวนให้ นางช่วย ไปตัดผม ก่อนจะมีการให้ นางช่วย ดื่มน้ำอัดลม ซึ่ง ณ ตอนนั้น นางช่วย ก็ไม่ได้เอะใจอะไร จึงดื่มน้ำอัดลมตามปกติ หลังจากนั้นก็หมดสติไป ก่อนที่จะถูกนำส่งโรงพยาบาล
ลูกสาวผู้เสียชีวิต เล่าว่า ในขณะที่ยายรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลระหว่างนั้นวันที่ 14 พฤศจิกายน ผู้ต้องสงสัยได้มีการขับรถกระบะมาชวนแม่ของตน ไปเยี่ยมยายที่โรงพยาบาล โดยจากภาพวงจรปิดจะเห็นว่า ตอนนั้นแม่เดินเหินปกติ ไม่มีอาการเจ็บป่วยใด ๆ โดยระหว่างที่ทั้งคู่เดินทางกลับ ผู้ต้องสงสัยได้มีการให้แม่ดื่มน้ำเปล่า จนเป็นเหตุทำให้แม่หมดสติ โดยไม่ทราบสาเหตุ และต้องเข้ารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ประมาณ 11 วัน ก่อนจะเสียชีวิต ทั้งที่ก่อนหน้านี้ แม่มีสุขภาพแข็งแรง ปกติดีทุกอย่าง
ส่วนคุณยายนั้น โชคดีที่รอดชีวิตมาได้เพราะไม่ได้ดื่มน้ำเยอะ ซึ่งจากเหตุการณ์ที่แม่เสียชีวิต ทางญาติมองว่า ผู้ต้องสงสัยน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากก่อนหน้านี้ผู้ต้องสงสัยเคยมีการยืมเงินยายและแม่ เป็นจำนวนหลายหมื่นบาท ตอนนี้คนในครอบครัวรู้สึกสงสัยว่าผู้ต้องสงสัยอาจมีการวางยา ทำให้คนในครอบครัวรู้สึกกลัวมากว่าผู้ต้องสงสัยรายนี้จะกลับมาก่อเหตุซ้ำอีก
เร่งเดินเรื่องชันสูตรศพ
ด้าน นายเอกภพ เปิดเผยว่า สำหรับสภาพศพของ นางสาวสมหมาย ทางครอบครัวพบความผิดปกติ โดยเล็บมือเล็บเท้ามีความเขียวช้ำชัดเจน ถึงแม้ไม่ได้มีการถ่ายภาพไว้ แต่ก็มีประจักษ์พยานที่เห็นหลายคน ซึ่งก่อนหน้านี้ทางครอบครัวได้มีการยื่นเอกสารขอชันสูตรพลิกศพกับทางโรงพยาบาล แต่ทางโรงพยาบาลได้มีการแจ้งว่า ต้องให้เจ้าที่ตำรวจเป็นคนยื่นเรื่องประสานงาน
นอกจากนี้ ยังมีคนเห็นพบวัตถุยาบางอย่าง อยู่ภายในบ้านของผู้ต้องสงสัย และด้วยความกังวลในเรื่องของความปลอดภัย ทางญาติจึงพา นางช่วย มาขอความช่วยเหลือกับทางเพจสายไหมต้องรอด ส่วนตัวตนเองคาดว่า ทางโรงพยาบาลคงมีการเก็บผลเกี่ยวกับการเสียชีวิตของ นางสาวสมหมาย และผลการตรวจร่างกายของนางช่วยไว้ ตนจึงตัดสินใจประสานงานกับทางกระทรวงสาธารณสุข ให้ช่วยตรวจสอบผลการรักษาอย่างละเอียด
สำหรับผู้ต้องสงสัยนั้น ขณะนี้ยังพักอาศัยอยู่ที่บ้านพักใน ตำบลบางชัน อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี โดยที่ยังไม่มีการดำเนินคดีใด ๆ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ทำให้คนในชุมชนรู้สึกหวาดกลัว เนื่องจากมีการใช้แทงก์น้ำเดียวกันทั้งหมู่บ้าน ซึ่งถ้าหากมีใครที่ไปกระทำการให้ผู้ต้องสงสัยไม่พอใจ อาจจะมีการกระทำในลักษณะนี้อีกหรือไม่ โดยพฤติกรรมของผู้ต้องสงสัยรายดังกล่าวนั้น ตนมองว่า เหตุการณ์คล้ายกับคดีดัง เนื่องจากพบยาบางอย่างอยู่ภายในบ้านของผู้ต้องสงสัย และถ้าหากตรวจสอบและพบความผิดปกติจริง ภายใน 1-2 วันนี้ ตนและทีมงานก็จะลงตรวจสอบพื้นที่ในที่เกิดเหตุ
เร่งตรวจสอบหลักฐานที่พบ
ด้าน ดร.ธนกฤต กล่าวว่า สืบเนื่องจากนายเอกภพ ได้ประสานมาเกือบ 2 สัปดาห์แล้ว ซึ่งพบว่ามีลักษณะคล้ายกับใช้ไซยาไนด์ เกี่ยวกับเรื่องการถูกวางยา ซึ่งตนขอให้ตรวจสอบให้ชัดเจนกว่านี้ และขณะนี้พบสิ่งที่ไม่เป็นปกติว่ามีสารบางอย่างเข้าสู่ร่างกาย แต่ตนขอรอเอกสารยืนยันอย่างเป็นทางการ โดยเรื่องนี้มี 2 ส่วน คือ มีคนเสียชีวิต และสารที่พบ จะเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดเกิดการเสียชีวิตได้หรือไม่ ทั้งนี้ ทราบว่าคุณยายถูกให้ดื่มน้ำอัดลมที่ผสมสารตัวเดียวกับลูกสาว แต่น่าจะมีปริมาณน้อย จึงทำให้คุณยายไม่เกิดผลต่อร่างกาย จึงทำให้เกิดการเสียชีวิต และย้ำว่าต้องรอผลการตรวจสอบสารดังกล่าว ซึ่งจะได้ทราบว่าเป็นสารชนิดไหนกันแน่ และในสัปดาห์หน้าน่าจะมีความคืบหน้าในเรื่องนี้ ซึ่งหากการลักลอบนำสารมาใช้จนทำให้เกิดการเสียชีวิต ซึ่งจะทำให้มีโทษฐานฆ่าคนตาย และการใช้สารที่ทำให้คนตายต้องดูว่ามีการไตร่ตรองก่อนหรือไม่ ซึ่งมีโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต และอย่างกรณีนี้หากมีการกระทำจริงจะเข้าข่ายพยายามฆ่า