ญาติพบขวดยาปริศนาในบ้านพี่สะใภ้ เชื่อวางยาแม่ผัว และยาย ขณะที่เจ้าตัวออกมาปฏิเสธเสียงแข็งไม่ได้ทำหวังล้างหนี้ ตามที่ถูกกกล่าวหา
วันนี้ (20 ธ.ค.67) ที่จันทบุรี กรณีญาติร้องขอความช่วยเหลือผ่านสายไหมต้องรอด เนื่องจากสงสัย “นางหญิง” พี่สะใภ้ จะวางยาแม่ผัวและยาย จนแม่ผัวตาย แต่ยายรอด คาดปมเหตุฆ่าล้างหนี้ หลังเจอขวดยาปริศนาในบ้านพี่สะใภ้
ล่าสุดผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับนายเหนก เจริญพร สามีนางสมหมายผู้เสียชีวิต และเป็นลูกเขยของนางช่วย แก้วขาว ยายผู้รอดชีวิต โดยนายเหนก บอกว่าตั้งแต่เกิดเรื่อง ก็ไม่ได้ติดต่อกับนางหญิง ซึ่งนางหญิง อยู่กับนางสมหมายคนสุดท้าย ก่อนที่จะเข้าโรงพยาบาลและเสียชีวิต โดยนายเหนก ยังปักใจเชื่อว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คือนางช่วย ผู้เป็นแม่ยาย ถูกวางยาในวันที่ 12 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยมีนางหญิง น้องสะใภ้เป็นผู้ต้องสงสัย แต่เคราะห์ยังดีที่รอดมาได้ แต่นางหมาย ผู้เป็นเมีย ไม่มีโอกาสกลับมาบอกว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะตอนที่รู้ข่าว และไปดู เมียตัวเองก็ธาตุแตก อึฉี่เลอะไปหมด มีหมอ พยาบาลเข้าไปช่วยเหลือ หลังจากเข้าไปดูก็เห็นว่านอนเกร็ง ไม่รู้สึกตัวอะไรแล้ว ตอนนี้กระดูกที่เผาหลังจากปลงศพไป ก็ฝังอยู่ข้างเมรุ พร้อมให้ขุดขึ้นมาตรวจสอบตลอดเวลา ส่วนเรื่องหนี้สินที่ว่า คิดว่ามีหลายบาท รวมทั้งสร้อยคอ กับเงินสด ที่หายไปด้วย มั่นใจไม่ได้ตายเอง เพราะออกจากบ้าน ขึ้นรถ ยังมีอาการปกติทุกอย่าง
จากนั้นผู้สื่อข่าว ได้เดินทางมายังหมู่บ้านอิเทพ ตำบลบางชัน อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี เพื่อพบกับนางหญิง ผู้ที่ถูกพูดถึงว่า เป็นคนวางยานางช่วย และนางสมหมาย โดยได้พบกับนายกร สามีของนางหญิง ซึ่งเป็นน้องชายแท้ๆของนางสมหมาย ซึ่งทั้งสองคนเปิดใจ เล่าว่า โดยปกติแล้วตนจะเป็นคนส่งนางช่วย และนางสมหมายไปทำธุระอยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากบรรดาพี่น้อง ที่บ้านตนจะมีรถยนต์เพียงบ้านเดียว กรณีของนางช่วย คือ ตนไปธุระด้วยกัน และมีคนอื่นไปด้วย ช่วงที่ลงไปเดินตลาดนัด ก็ยังเดินกันตามปกติ แยกย้ายกันเดินต่างคนต่างซื้อของ แต่นางช่วยซื้อของเสร็จก่อน จึงเดินกลับมารอที่รถ แต่ตอนนั้นตนก็ได้กลิ่นเหมือนเหม็นอุจจาระ แต่ไม่ได้เอะใจกระทั่งขึ้นไปนั่งบนรถ นางช่วยมีอาการนั่งนิ่งต่อมาทางทีมข่าว ได้เดินทางมายังหมู่บ้านไร้แผ่นดิน ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ ตำบลบางชัน อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี เนื่องจากทราบว่าทางด้านของนางหญิง และนายกรผู้เป็นสามี ( น้องชายนางสมหมาย )และเกิดอาการเกร็ง จึงช่วยกันปฐมพยาบาลก่อนนำส่งโรงพยาบาล ส่วนประเด็นทอง 1 บาท ของนางช่วยที่บอกว่าตนเป็นคนเอาไปนั้น จริงๆ แล้วนางช่วยเป็นคนถอดสร้อยทองให้ตนให้เอาไปจำนำกับร้านในพื้นที่ ซึ่งคนที่ไปด้วยกันเป็นพยานได้ ประเด็นของนางสมหมาย พี่สาวของกรผู้เป็นสามี ตนได้มีการชักชวนกันไปเยี่ยมนางช่วย ที่นอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ระหว่างรอขึ้นไปเยี่ยมนางช่วย ได้ชวนกันไปนั่งกินข้าวที่โรงอาหารภายในโรงพยาบาล ตอนนั้นนางสมหมาย เดินไปซื้อน้ำเปล่าสองขวด เพื่อมาดื่มคนละขวด ส่วนตนเดินไปซื้อราดหน้ามาสองชาม เพื่อมากินกันคนละชาม ตนไม่ได้มีการซื้อน้ำให้นางสมหมายดื่มแต่อย่างใด เพราะนางสมหมายเป็นคนซื้อน้ำและเป็นคนดื่มเอง หลังจากกินข้าวกันเสร็จได้ขึ้นไปเยี่ยมนางช่วย ซึ่งตอนนั้นก็มีบรรดาน้องๆ ของนางช่วย มาเยี่ยมด้วย ช่วงนั้นนางสมหมาย ก็มีการเดินไปกินผลไม้กินขนม แต่นางสมหมายบอกว่ารู้สึกร้อนและเหงื่อออก จากนั้นไม่นานจึงชักชวนกันกลับบ้าน พอขึ้นรถมาเริ่มมีเหงื่อออกมากขึ้น และบอกว่าจุกแน่นหน้าอก อาการเริ่มไม่ดีจึงให้ปรับเบาะเอนนอน แต่นางสมหมายบอกว่าไม่ไหว ขณะขับรถตนก็พยายามช่วยนางสมหมายด้วย พอเดินทางมาถึงบ้านหนองบัวอาการเริ่มไม่ดี จึงรีบนำนางสมหมาย ส่งโรงพยาบาลแหลมสิงห์ เมื่อไปถึงก็เวรเปลมารับขึ้นเตียงนอนเข็นเข้าไป ประเด็นที่โดนกล่าวหาว่าเอาทองน้ำหนัก 3 บาทและเงินเกือบ 10,000 บาทของนางสมหมายไป ตนยังงงอยู่ว่า จะไปเอาตอนไหน เพราะตนไม่ได้ไปวุ่นวายกับทรัพย์สินของนางสมหมายเลย เพราะได้บอกกับทางโรงพยาบาลว่าให้เก็บทรัพย์สินไว้ให้ญาติที่กำลังเดินทางมา หลังจากเกิดเรื่องตนได้มีการท้า ให้นายเหนก ไปตรวจรอยนิ้วมือที่กระเป๋าของนางสมหมาย แต่ก็ไม่มีใครยอมไปตรวจ ส่วนเรื่องของหนี้สินที่ตนโดนกล่าวหาว่าติดหนี้หลายบาท การวางยาจึงเป็นการทำไปเพื่อล้างหนี้ ตนมีหนี้จริงแต่เป็นหนี้ที่ไปหยิบยืมคนอื่นมาและมีการส่งดอกเป็นรายวัน ส่วนใหญ่เป็นหนี้จากการเล่นหวย และเอามาใช้จ่ายในครอบครัว การหยิบยืมเงินของนางสมหมายก็มีบ้าง แต่ก็จะเป็นลักษณะของการผลัดกันยืม อย่างเช่นตนยืมนางสมหมายส่งเงินสัจจะของหมู่บ้าน เมื่อนางสมหมายไม่มีเงินก็จะมายืมเงินตน ครั้งละหลักร้อยและหลักพันบาท ส่วนหนี้ที่ตนมีตอนนี้เหลือเพียงไม่กี่บาทแล้ว เพราะมีการทยอยส่งเจ้าหนี้เป็นรายวันจึงไม่มีเหตุจำเป็นอะไรจะต้องก่อเหตุในการวางยาพี่สาวสามีเพื่อเป็นการล้างหนี้ ด้านนายกร น้องชายของนางสมหมายบอกว่า ในฐานะที่เป็นคนกลาง อีกคนก็เมีย อีกคนก็พี่ ตนตั้งตัวเป็นเสาธง ขอยืนอยู่ตรงกลางใครผิดก็ว่าไปตามผิด หากเมียตนเป็นคนผิด ก็ให้ตำรวจมาจับไปได้เลยไม่มีการเข้าข้างใครใดๆทั้งสิ้น ส่วนเรื่องหลังจากนี้ก็ขอให้เป็นการยืนยันความบริสุทธิ์ของแต่ละคน พร้อมจะให้ข้อมูลหากตำรวจจะมาสืบสวนอะไรอีก ซึ่งเมียตนก็พร้อมสู้