สธ. แจงต่างด้าวเข้า รพ. - คลอดบุตร ต้องชำระค่าบริการเอง ยกเว้น 3 กลุ่ม “รอสัญชาติไทย-อยู่ในประกันสังคม-ซื้อประกันสุขภาพ” ยอมรับมีบางส่วนที่ไม่สามารถจ่ายได้ หน่วยบริการพิจารณาตามหลักมนุษยธรรม มีงบฯ จากเครือข่ายองค์กรนานาชาติสนับสนุนส่วนหนึ่ง
วันนี้ (21 ธ.ค.67) นพ.มณเฑียร คณาสวัสดิ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกระแสสังคมที่ห่วงใยต่อระบบสาธารณสุขประเทศไทย จากกรณีคนต่างชาติข้ามแดนเข้ามาคลอดลูกและใช้สิทธิรักษาฟรี ว่า ระบบสาธารณสุขของประเทศไทยปฏิบัติตามกฎหมายที่บัญญัติไว้และเป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานในการดูแลรักษาทุกคนบนผืนแผ่นดินไทย โดยไม่เลือกเชื้อชาติ ศาสนา และความเชื่อ ครอบคลุมผู้ที่กำลังดำเนินการพิสูจน์สัญชาติไทย รัฐบาลให้ความสำคัญในเรื่องนี้ โดยจัดตั้งกองทุนต่าง ๆ รวมถึงมีเครือข่ายองค์กรนานาชาติให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนค่าใช้จ่ายตามความเหมาะสม เบื้องต้น มีการจัดการสิทธิในการเข้าถึงบริการสาธารณสุขสำหรับผู้ที่ไม่ได้มีสัญชาติไทย 3 ส่วน ดังนี้
1.บุคคลที่มีปัญหาสถานะและสิทธิหรือบุคคลไร้รัฐ ซึ่งเป็นบุคคลที่กำลังดำเนินการพิสูจน์สัญชาติไทย และได้รับเลขประจำตัว 13 หลัก จากกระทรวงมหาดไทย และปรากฏรายการบุคคลในฐานข้อมูลของกระทรวงมหาดไทย กลุ่มนี้จะมีสิทธิในการเข้าถึงบริการสาธารณสุข โดยใช้กองทุนประกันสุขภาพบุคคลที่มีปัญหาสถานะและสิทธิ (ท.99) ซึ่งรัฐบาลจัดสรรงบประมาณให้ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ปัจจุบันมีผู้ขึ้นทะเบียนกับกองทุน 723,603 คน
2.แรงงานต่างด้าวที่ลงทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายและมีใบอนุญาตทำงาน นายจ้างจะส่งเข้าประกันสังคมแรงงานต่างด้าว ซึ่งจะได้รับสิทธิประโยชน์ การรักษาพยาบาล เงินทดแทนรายได้กรณีเจ็บป่วย คลอดบุตร ชราภาพ และสิทธิในกรณีว่างงาน
3.กองทุนประกันสุขภาพคนต่างด้าวและแรงงานต่างด้าว กระทรวงสาธารณสุข หรือการซื้อประกันสุขภาพของแรงงานต่างด้าว ซึ่งจะมีการตรวจสุขภาพและทำประกันสุขภาพให้แก่แรงงานต่างด้าวสัญชาติลาว เมียนมา และกัมพูชา ที่ไม่อยู่ในระบบประกันสังคมหรือกำลังรอสิทธิ รวมทั้งผู้ติดตามแรงงานต่างด้าว โดยอายุความคุ้มครองจะแตกต่างกันไปตามค่าประกันสุขภาพ ทำให้สามารถเข้าถึงการรักษาพยาบาล การส่งเสริมสุขภาพ การเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรค และช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายการให้บริการของสถานพยาบาล
นพ.มณเฑียร กล่าวต่อว่า สำหรับกลุ่มที่จะได้รับการดูแลจากกองทุนประกันสุขภาพบุคคลที่มีปัญหาสถานะและสิทธิ หรือ ท.99 นั้น วานนี้ (20 ธ.ค.67) กองเศรษฐกิจสุขภาพและหลักประกันสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ได้มีหนังสือแจ้งซักซ้อมแนวทางการขึ้นทะเบียนบุคคลที่มีปัญหาสถานะและสิทธิ เพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยกลุ่มบุคคลที่สามารถขอรับสิทธิได้ จะต้องได้รับเลขประจำตัว 13 หลัก จากกระทรวงมหาดไทย ตามมติ ครม. และต้องยื่นหลักฐาน เช่น บัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรประจำตัวบุคคล ทะเบียนบ้าน และหนังสือรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ส่วนกลุ่มผู้ไม่มีสัญชาติไทยที่ไม่อยู่ในระบบประกันสังคมหรือประกันสุขภาพกระทรวงสาธารณสุข และไม่ใช่บุคคลที่มีปัญหาสถานะและสิทธิตามที่มติ ครม.กำหนด หากเข้ารับบริการสาธารณสุขจะต้องชำระค่าบริการเอง
อย่างไรก็ตาม มีบางส่วนที่ไม่สามารถชำระค่าบริการได้ อาจขอความอนุเคราะห์ค่ารักษาพยาบาล โดยหน่วยบริการจะพิจารณาตามหลักมนุษยธรรม ซึ่งค่ารักษาพยาบาลส่วนที่เรียกเก็บไม่ได้นี้ จะมีงบประมาณจากเครือข่ายองค์กรนานาชาติให้การสนับสนุนส่วนหนึ่ง