รวบชายทาสยาวัย 31 ปี พยายามเข้าไปขโมยองค์เทพารักษ์ทองเหลือง พยายามลักพระพุทธรูป และทำลายทรัพย์สินภายในศาลหลักเมืองอุดรธานี อ้างแค่มากินน้ำแดง-นั่งสมาธิ
จากกรณีเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2567 มีชายพยายามเข้าไปลักองค์เทพารักษ์ที่หล่อด้วยทองเหลือง สูงประมาณ 1 เมตร ภายในศาลเทพารักษ์ ถนนศุภากิจจรรยา เขตเทศบาลนครอุดรธานี โดยมีกล้องวงจรปิดหน้าร้านขายเครื่องสักการะบันทึกไว้ได้
เมื่อวานนี้ (23 ธ.ค. 67) ร.ต.ท.วิฆเนศ ซื่อตรง รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งมีผู้ชายต้องสงสัยเข้ามาพยายามลักพระพุทธรูป และทำลายทรัพย์สินภายในศาลหลักเมืองอุดรธานี ถนนอธิดี เขตเทศบาลนครอุดรธานี จึงนำกำลังสายตรวจ 191 ไปตรวจสอบ พบชายที่ใช้เท้ากระทืบก๊อกน้ำประปาหักพังเสียหาย ตำรวจจึงเข้าควบคุมตัว จากการสอบสวนทราบชื่อคือ นายคมสันต์ อายุ 31 ปี จากการตรวจค้นย่ามพบมีดพร้า 1 เล่ม จึงควบคุมตัวไปโรงพักทำการสอบ
ทาง นายคมสันต์ เล่าว่า ก่อนหน้านี้ 3 สัปดาห์ก่อน ตนเดินทางจาก จ.อุบลราชธานี มา จ.อุดรธานี ตั้งใจมาหาพระอาจารย์ที่รู้จักกัน แต่หาไม่พบและตนไม่มีเงิน ตนจึงเร่ร่อนอยู่ในเมืองอุดรธานี ต่อมาตนเก็บผ้าสไบสีเหลืองได้จากถังขยะ 2 ผืน จึงนำไปซักในหนองประจักษ์ และนำมาห่มพระพุทธรูปในศาลพระพุทธโพธิ์ทองแต่ผู้ดูแลศาลไล่ตน หลังจากนั้นตนไปล้างหน้าก็ถูก รปภ. ไล่ ตนโมโหจึงกระทืบก๊อกน้ำจนหัก และหยิบมีดออกมาโชว์
ทางตำรวจจึงตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดพบเป็น “สีม่วง” จึงแจ้งข้อหาทำให้เสียทรัพย์, พกพาอาวุธมีดไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณโดยไม่มีเหตุอันควร, เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย จึงควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
ต่อมาช่วงเช้าวันนี้ (24 ธ.ค. 67) พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทร์พล ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี สั่งการให้ พ.ต.ท บรรจง พาโคตร สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี นำตัว นายคมสันต์ มาสอบสวนขยายผล เพราะนายคมสันต์มีตำหนิรูปพรรณคล้ายกับผู้ก่อเหตุพยายามขโมยองค์เทพารักษ์ ซึ่งจากการสอบสวน นายคมสันต์ ได้ให้การรับสารภาพว่า เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2567 ตนเข้าไปไหว้ศาลเทพารักษ์เพื่อขอพร ได้กินน้ำแดง และนั่งสมาธิเท่านั้น เสร็จแล้วได้โยกองค์เทพารักษ์ แต่ใต้ฐานโดนล็อคไม่ได้ลักอะไรไป แต่การก่อเหตุครั้งนี้ทำให้ฐานองค์เทพารักษ์ร้าว ตำรวจแจ้งข้อหา “พยายามลักทรัพย์ และทำให้เสียทรัพย์”
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว นายคมสันต์ ไปชี้จุดทำแผนประกอบคำรับสารภาพ และให้กราบขอขมา ที่ล่วงเกินองค์เทพารักษ์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองอุดรธานี เสร็จแล้วคุมตัวกลับโรงพักไปดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทาง น.ส.วิภาวดี อายุ 47 ปี เจ้าหน้าที่ศาลหลักเมืองอุดรธานี เล่าว่า เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม คนร้ายเข้ามาที่ศาลหลักเมือง 3 ครั้ง โดยครั้งแรกถือผ้าสไบมาเปลี่ยนองค์พระ ทางเจ้าหน้าที่มาบอกให้ไปขออนุญาตผู้จัดการก่อนจะเปลี่ยนโดยพละการไม่ได้ คนร้ายอ้างว่าซื้อมาเปลี่ยนให้เองทำไมต้องขออนุญาต ครั้งที่ 2 คนร้ายถือไขขวงมานั่งอยู่ข้างตู้บริจาค มีลักษณะไม่น่าไว้วางใจ รปภ.จึงบอกให้ออกไป ครั้งที่ 3 คนร้ายเข้ามาบนศาลาพระพุทธโพธิ์ทอง พยายามจะลักพระพุทธชินราช รปภ.จึงไล่ออกไปอีก จากนั้นคนร้ายก็ไปใช้เท้าถีบก๊อกน้ำประปาจนหัก แล้วชักมีดออกมาขู่ รปภ.