ผู้ใหญ่บ้าน ร่วมกับชาวบ้าน ช่วยกันวางแผนจ่อจับ 2 โจรแสบ ย่ามใจลักข้าวเปลือกคืนเดียว 3 รอบ อ้างต้องการนำไปขายให้ร้านรับซื้อของเก่า ในราคากิโลกรัมละ 6 บาท
วันที่ 25 ธันวาคม 2567 ตำรวจชุดสืบสวน สภ.มัญจาคีรี พร้อมนายอุทัย จันโทศรี ผู้ใหญ่บ้าน บ้านหนองต่อ ม.3 ต.นาข่า อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ร่วมกันจับกุมภูมิ อายุ 18 ปี และนายฟบุ๊ค (นามสมมติ) อายุ 16 ปี พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ กระสอบบรรจุข้าวเปลือก 15 กระสอบ รถเข็น 1 คันเอาไว้ได้
การจับกุมสืบเนื่องจาก ชาวบ้านพบคนร้ายเป็นชาย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ ออกจากหมู่บ้านไปตามถนนสายหนองต่อ - นาข่า จึงได้ร่วมกับผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้าน ติดตามรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวไป ประมาณ 2 กิโลเมตร สามารถหยุดรถคันดังกล่าวไว้ได้ พร้อมควบคุมตัวทั้ง 2 คน เอาไว้ พร้อมรถเข็นที่บรรทุกกระสอบข้าวเปลือก นอกจากที่พงหญ้าข้างถนน ยังพบว่ามีกระสอบข้าวเปลือกซุกซ่อนไว้อีกจำนวน 9 กระสอบ จึงได้ควบคุมตัวทั้ง 2 คนพร้อมของกลางไปสอบสวน
ด้านนางพร อายุ 64 ปี เจ้าของข้าวเปลือก พาผู้สื่อข่าวไปดูเล้าข้าว ที่ถูกคนร้าย เข้ามาขโมยข้าว โดยที่ประตูเล้าข้าวพบว่า ถูกคนร้ายตัดสังกะสีแผ่นเรียบที่นำมาทำเป็นประตูจนขาด ก่อนจะให้ข้อมูลว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม ถูกขโมยเข้าเปลือกไปแล้ว 1 รอบ โดยคนร้ายงัดกุญแจที่ล็อกประตู จึงซื้อกุญแจมาใส่ใหม่ พร้อมติดเพิ่มอีก 1 ตัว เพื่อความแน่นหนาปลอดภัย แต่ได้ไม่แจ้งความ กระทั่งล่าสุดคนร้ายย้อนกลับมาก่อเหตุอีก และถูกผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านช่วยกันจับตัวเอาไว้ได้ จึงไปดูกระสอบข้าวพบว่าเป็นของตัวเองจริง
ด้านนายอุทัย จันโทศรี ผู้ใหญ่บ้าน เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ได้รับแจ้งจากลูกบ้าน จึงวางแผนล่อให้คนร้ายมาติดกับ เพราะเชื่อว่าคนร้ายจะย้อนกลับมาขโมยอีก พบเห็นคนร้ายขนข้าวเปลือก ใส่รถเข็นที่ต่อพ่วงท้ายรถจักรยานยนต์ ขี่ออกจากหมู่บ้าน จึงร่วมกันออกติดตามจับกุมคนร้าย กระทั่งเจอคนร้ายพร้อมของกลางทั้งหมด
พ.ต.อ.พิชัย นาขันดี ผกก.มัญจาคีรี เผยว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ให้การรับสารภาพว่า ขโมยข้าวเปลือกจากยุ้งข้าวของชาวบ้านจริง โดยขนออก 3 ครั้ง ด้วยการใช้รถเข็นต่อพ่วงหลังรถจักรยานยนต์ ขนกระสอบข้าวจากยุ้งข้าวไปซ่อนไว้ที่พงหญ้า กระทั่งมีชาวบ้านพบเห็น และแจ้งตำรวจมาจับกุม ส่วนสาเหตุเพราเห็นว่ายุ้งข้าวอยุ่ริมถนน ง่ายต่อการลงมือ หากขโมยไปได้จะนำไปขายให้ร้านรับซื้อของเก่า ที่รับซื้อข้าวเปลือกด้วยในกิโลกรัมละ 6 บาท ซึ่ง 1 กระสอบ บรรจุ 50 กิโลกรัม หากนำไปขายได้ประมาณ 300 บาท ซึ่งตำรวจจะสอบสวนขยายผลว่า คนร้าย2 คนนี้เคยก่อเหตุลักทรัพย์ข้าวเปลือกในหมู่บ้านอีกหรือไม่
เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ถูกแจ้งข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน และลักทรัพย์ผู้มีอาชีพกสิกรรมหรือรับของโจร ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับบุคคลหรือทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นหลบหนีและลักทรัพย์ผู้มีอาชีพกสิกรรมหรือรับของโจร ซึ่งพนักงานสอบสวน จะประสานสหวิชาชีพมาสอบสวนผู้ต้องหา เนื่องจากเป็นเยาวชน ก่อนส่งฟ้องฝากขังที่ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดขอนแก่น เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป