รอง ผบ.ตร. ฝ่ายกฎหมาย รอผลชันสูตรศพ “แบงค์ เลสเตอร์” ก่อนพิจารณาว่าบุคคลใดเข้าข่ายผิด เทียบเคียงคดี “ลัลลาเบล” ที่มีพฤติกรรมคล้ายกัน
วันนี้ ( 26 ธ.ค.67) พล.ต.อ. นิรันดร เหลื่อมศรี รอง ผบ.ตร (ฝ่ายกฎหมาย) เผยถึงการเสียชีวิตของ แบงค์ เลสเตอร์ อินฟลูเอนเซอร์สู้ชีวิต ที่เสียชีวิตกะทันหันคาดว่าสาเหตุเกิดจากการดื่มสุราในปริมาณมากแลกกับเงิน 3 หมื่นบาท จนร่างกายช็อกและเสียชีวิต ว่าสามารถเอาผิดกับผู้จ้างดื่มได้หรือไม่ว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คดีดังกล่าวจะต้องเริ่มจากการทำสำนวนคดีชันสูตรพลิกศพตามประมวลกฎหมายอาญาก่อน เพื่อให้ทราบสาเหตุแห่งการตายว่าเป็นการตายผิดธรรมชาติหรือตามธรรมชาติ ซึ่งจะต้องมีการตรวจพิสูจน์โดยแทพย์นิติเวช ซึ่งขณะนี้ร่างอยู่ระหว่างการผ่าพิสูจน์ส่วนผลจะเป็นอย่างไรยังไม่ทราบรายละเอียด
พล.ต.อ. นิรันดร เปิดเผยว่า หากแพทย์นิติเวชสรุปผลว่าเป็นการตายผิดธรรมชาต มีผู้ทำให้ถึงแก่ความตาย ก็ถือว่าความผิดทางอาญาเกิดขึ้น จึงต้องทำสำนวนขึ้นมาอีกสำนวน โดยเอาสำนวนชันสูตรศพมาประกอบคดีอาญา เพื่อสืบสวนสอบสวนว่ามีบุคคลใดเกี่ยวข้องกับการตาย และใครกระทำความผิด ขณะนี้เชื่อว่าในทางสืบสวนตำรวจพื้นที่ ต้องมีการรวบรวมพยานหลักฐานไว้แล้ว แต่ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าการตายเกิดจากสาเหตุใด เพราะคืนวันเกิดเหตุมีการจัดปาร์ตี้ร่วมดื่ม และมีการเชียร์ให้ดื่มสุรามากกว่าปกติ ซึ่งตามปกติร่างกายแต่ละคนรับได้ไม่เท่ากัน ในการดื่มแอลกอฮอล์ และแต่ละคนอาจมีโรคประจำตัวที่แต่ละคนไม่รู้มาก่อน อาจจะสัมพันธ์กับการดื่มสุราและไปการกระตุ้นให้เกิดการเสียชีวิตได้ ต้องรอแพทย์ทำการชันสูตรเพื่อให้ทราบสาเหตุที่แท้จริง
ส่วนการจะชี้ว่าใครกระทำผิดหรือไม่ต้องมีหลักฐานหลายอย่างยังไม่สามารถฟันธงได้ในเวลานี้เนื่องจากมีรายละเอียดจำนวนมาก ซึ่งคดีนี้อาจจะเทียบเคียงคดีในอดีตเช่น คดี “ลัลลาเบล” ที่อาจจะมีพฤติการณ์ใกล้เคียงกัน คือมีการชักชวนให้ดื่มสุราในงานปาร์ตี้เช่นเดียวกัน จึงต้องดูพฤติการณ์ในการสืบสวนสอบสวนว่ามีบุคคลใดเข้าไปเกี่ยวข้องบ้าง โดยย้ำต้องทราบสาเหตุการเสียชีวิตก่อนอย่าเพิ่งกล่าวหาบุคคลใด เพราะเป็นการชี้นำสังคม ถึงแม้สังคมจะเชื่อแล้วก็ตามว่ามีการว่าจ้างแล้วชี้ว่าบุคคลนั้นต้องผิดหรือต้องถูก ยืนยันว่าตำรวจทำงานไม่ล่าช้า
และสื่อมวลชน ระบุว่า มีการว่าจ้างกัน3หมื่นบาทให้ดื่มจนเสียชีวิต เน้นย้ำว่าต้องดูรายละเอียดอื่นๆเช่น เป็นเรื่องของการสมัครใจหรือไม่ หรือมีการบังคับขู่เช่นหรือไม่ จึงไม่สามารถฟันธงข้อกฎหมายได้ต้องมีการสืบสวนสอบสวน รวบรวมหลักฐานถึงสภาพแวดล้อมทั้งหมด