อาลัย แบงค์ เลสเตอร์ กระดกเหล้าแลกเงิน

View icon 54
วันที่ 26 ธ.ค. 2567 | 11.05 น.
ห้องข่าวภาคเที่ยง
แชร์
ห้องข่าวภาคเที่ยง - ของมึนเมา เป็นเครื่องดื่มที่ส่งผลกระทบต่อร่างกาย ยิ่งดื่มมาก ยิ่งอันตรายมาก กรณีล่าสุด "แบงค์ เลสเตอร์" ดาว TikTok ที่หลายคนรู้จักเสียชีวิตแล้ว หลังร่วมกิจกรรม กระดกเหล้าแลกเงิน 30,000 บาท

"แบงค์ เลสเตอร์" ดาว TikTok ซึ่งเป็นเด็กพิเศษ โดยหลายคนรู้จักจากการร้องแร็ปขายพวงมาลัยเลี้ยงยาย จนมีคนตามไปอุดหนุนแล้วขอให้เขาร้องแร็ปให้ฟัง

กระทั่ง "แบงค์ เลสเตอร์" กลายเป็นคนดัง แล้วถูกว่าจ้างโดยอินฟลูเอนเซอร์บางกลุ่ม ที่ชอบทำคอนเทนต์ไม่สร้างสรรค์ เช่น กินของสกปรก จ้างขึ้นเวทีไปต่อยกับคนไม่สมประกอบ ถ่ายคลิปตอนแก้ผ้าอาบน้ำ ให้ขี่รถตกน้ำ และพ่นน้ำลายใส่ "แบงค์ เลสเตอร์" จนชาวเน็ตแห่เข้าไปคอมเมนต์ ยกให้เป็นอินฟลูเอนเซอร์ตลาดล่าง

คลิปนี้ ก็เป็นอีกคลิปที่ชาวเน็ตรับไม่ได้ จ้างให้ "แบงค์ เลสเตอร์" กินเจลหล่อลื่น เตือนคุณผู้ชมว่า อย่าหาทำเด็ดขาด!

พักหลัง ๆ "แบงค์ เลสเตอร์" มาเอาดีด้านรับจ้างกินเหล้า กินเบียร์ตามงาน เอนเทอร์เทนเหล่าผู้จ้าง โดยก่อนหน้านี้ เขาไปรับงานดื่มเหล้า ดื่มเบียร์มาก่อนแล้ว แต่วันนั้นดื่มไม่ไหวจึงขอปฏิเสธ และหลังจากนั้นไม่กี่วัน ก็ถูกว่าจ้างมางานที่เกิดเหตุ ให้กระดกเหล้าเพียว ๆ แลกเงิน 30,000 บาท ซึ่งตัวเงินที่ล่อตาล่อใจ ทำให้งานนี้เขาไม่ปฏิเสธ หวังนำเงินกลับมาให้ยาย แต่กลับกลายเป็นวันสุดท้ายของ "แบงค์ เลสเตอร์" เขาได้จากไปประมาณ 03.00 น. ของเช้าวันนี้ (26 ธ.ค.)

โพสต์สุดท้ายในเฟซบุ๊กของ "แบงค์ เลสเตอร์" เป็นการโพสต์ภาพนิ่งของตัวเอง พร้อมแคปชัน เราไม่จำเป็นต้องใส่หน้ากากเข้าหากันครับ การวางตัวสำคัญที่สุดครับ และอ่อนน้อมถ่อมตน สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เราปฏิบัติมาตลอดครับ

หลังการเสียชีวิตของ "แบงค์ เลสเตอร์" ตำรวจได้เข้าไปเก็บหลักฐาน บริเวณสถานที่จัดงาน เตรียมสอบปากคำผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์

เบื้องต้น ทีมข่าวสอบถามไปยังนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดจันทบุรี ให้ข้อมูลว่า หลังเกิดเหตุ "แบงค์ เลสเตอร์" ถูกหามส่งโรงพยาบาลสองพี่น้อง โดยมีกลุ่มเพื่อนเป็นผู้พามา แต่เมื่อมาถึงกลับพบว่าชีพจรหยุดนิ่ง แพทย์พยายามช่วยชีวิตอย่างสุดความสามารถ แต่ร่างกายไม่ตอบสนอง

ร่างของ "แบงค์ เลสเตอร์" ถูกนำส่งโรงพยาบาลพระปกเกล้า เพื่อชันสูตรสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียด คาดว่าจะทราบผลภายในวันนี้ ขณะที่ บรรยากาศหน้าห้องพักศพ ยังไม่มีญาติหรือเพื่อน ๆ เดินทางมารอฟังผลและรอรับศพแต่อย่างใด ซึ่งเป็นไปได้อาจจะมากันหลังทราบผลชันสูตร

สนุกแค่ไหนก็เอาแต่พอดี! แพทย์เตือนกระดกเหล้าเพียว ๆ ไม่มีสัญญาณเตือนให้รู้ก่อน รู้อีกทีอาจเสียชีวิต

นายแพทย์อังกูร ภัทรากร นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ สถานบำบัดรักษาและฟื้นฟูยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี เตือน! การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แบบรวดเร็ว เพียว ๆ ไม่ผสม อันตรายถึงชีวิต! เพราะปริมาณแอลกอฮอล์จะเข้าสู่ร่างกายอย่างรวดเร็ว ยิ่งดื่ม ยิ่งเพลิน ยิ่งสนุก กว่าจะรู้ตัวอีกที ปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายก็พุ่งสูง

นักดื่มที่ดื่มไม่เก่ง ยังพอมีสัญญาณเตือน หากเวียนหัว อาเจียน ก็จะหยุดกิน แต่หากเป็นพวกสิงห์นักดื่ม ยิ่งดื่ม ยิ่งเพลิน โดยที่ไม่รู้เลยว่ากินไปมากเท่าไร

หากกินเกิน 100 มิลลิกรัมเปอร์เซ็น จะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน เดินเซ พูดไม่รู้เรื่อง, 200 มิลลิกรัมเปอร์เซ็น สูญเสียความจำ อารมณ์ฉุนเฉียว, 300 มิลลิกรัมเปอร์เซ็น มึนงง คุมสติไม่ได้ หายใจลำบาก หัวใจเต้นผิดปกติ และหากกินถึง 400 มิลลิกรัมเปอร์เซ็น ตาพร่า หมดสติ บางคนที่ขอเพียว ๆ อาจถึงขั้นเสียชีวิต

สอบถามเรื่องนี้กับ "ผบ.ตร." บอกว่า กรณีที่มีอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง "แบงค์ เลสเตอร์" ถูกว่าจ้างให้ดื่มสุรา 1 แบน จนทำให้เสียชีวิตนั้น ถ้าเจตนาถือว่าผิดกฎหมาย แต่ต้องไปดูรายละเอียดในกฎหมายว่า กรณีของการกระทำที่เป็นการคึกคะนอง หรือประมาท จะเข้าข่ายความผิดในมาตราใดหรือไม่

ขอฝากเตือนว่าเรื่องนี้ไม่ควรเกิดขึ้น ไม่ควรทำ เพราะเป็นการกระทำที่ทำให้ผู้อื่นเกิดอันตรายถึงชีวิต โดยเฉพาะช่วงปีใหม่แบบนี้ อยากให้ประชาชนฉลองปีใหม่อย่างมีสติ หากเกิดการสูญเสียแบบนี้อีก ระวังจะมีความผิดตามกฎหมาย

ขณะที่ พลตำรวจโท โสภณรัชต์ สิงหจารุ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะกำกับดูแลโรงพยาบาลตำรวจ บอกว่า เรื่องสาเหตุการเสียชีวิต ยังต้องรอผลการพิสูจน์จากแพทย์นิติเวชอย่างเป็นทางการก่อน เพราะบางคนเคยดื่มสุราเป็นประจำ หรือบางคนไม่เคยดื่มก็อาจจะมีผลต่อร่างกาย

พร้อมยกตัวอย่างว่า กรณีชาวต่างชาติในบางประเทศที่มีสภาพอากาศหนาวจัด ก็มีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อให้ร่างกายอบอุ่น ซึ่งมักจะกลายเป็นโรคเส้นเลือดโป่งพอง ตอนช่วงสูงอายุ เพราะการดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากจะทำให้เส้นเลือดหดตัว และขยายตัวอย่างรวดเร็ว เป็นเหตุให้เส้นเลือดแตกเสียชีวิตได้

แต่ในไทยไม่ได้มีอากาศหนาวจัดเหมือนต่างประเทศ ประเด็นนี้จึงต้องรอดูหลายปัจจัย เช่น มีโรคประจำตัวหรือไม่ หรือสภาพร่างกายไม่พร้อมรับแอลกอฮอล์ปริมาณมาก ก็มีผลเช่นกัน ฝากย้ำเตือนเรื่องนี้ด้วย เห็นช่วงนี้อากาศหนาว อย่าไปคิดว่าดื่มแอลกอฮอล์จะช่วยแก้หนาวได้ อันนี้เป็นความเชื่อที่ไม่ถูกต้อง และมีความเสี่ยง เพราะจะกระตุ้นให้เกิดอาการกำเริบเป็นอันตรายต่อชีวิตได้เหมือนกัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง