แม่วัย 32 ปี กระเตงลูก 4 เดือน ขี่รถจักรยานยนต์ พุ่งชนท้ายรถบรรทุกที่จอดอยู่ข้างทาง แม่เสียชีวิต ส่วนลูกบาดเจ็บสาหัส ด้านพลเมืองเผยแม่ส่งสายตาหาตนให้ช่วยลูกก่อนจะสิ้นใจ
วันนี้ (26 ธ.ค. 67) ร.ต.อ.อุดมเกียรติ มาแจ้ง รองสว.สอบสวน สภ.เมืองปทุมธานี ได้รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนท้ายรถบรรทุก 6 ล้อ มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต บนถนนปทุมธานี-กรุงเทพ มุ่งหน้าเข้าปทุมธานี ปากซอยชุมชนมชนแสงชัยพัฒนา ต.บางปรอก อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมอาสากู้ภัยรมูลนิธิร่วมกตัญญู และแพทย์สถาบันนิติวิทยาศาสตร์กระทรวงยุติธรรม
ณ ที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ชนอยู่กับท้ายรถบรรทุก 6 ล้อ และพบผู้เสียชีวิต 1 คน ซึ่งเป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ทราบชื่อน.ส.ไพริน อายุ 32 ปี โดยที่ตัวของผู้เสียชีวิตยังมีชุดเป้อุ้มเด็กติดคาอยู่ นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1 คน เป็นเด็กอายุ 4 เดือน ซึ่งเป็นลูกของผู้เสียชีวิต ทางอาสากู้ภัยนำตัวส่งโรงพยาบาลปทุมธานี
ทางด้าน น.ส.วิ่ง อายุ 30 ปี ชาวสปป.ลาว ซึ่งพนักงานร้านอาหารที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ขณะที่ตนกำลังนั่งอยู่ที่ร้าน ตนได้ยินรถชนกับจึงวิ่งออกมาดูก็พบว่า รถจักรยานยนต์ชนเข้ากับท้ายรถบรรทุกที่จอดอยู่ริมทาง ตนเห็นผู้เสียชีวิตซึ่งขณะนั้นยังมีลมหายใจได้ส่งสายตาให้ตนไปช่วยลูกของผู้เสียชีวิตที่กระเด็นออกมาจากเป้อุ้มเด็กที่หน้าท้อง ตนจึงวิ่งไปช่วยเด็กหญิงก่อนส่งให้อาสากู้ภัย เบื้องต้นเด็กหญิงมีอาการสาหัส
จาการสอบถามเจ้าของรถบรรทุก ซึ่งเป็นร้านขายวัสดุก่อสร้าง ได้กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีลูกค้ามาสั่งอิฐและปูน ตนจึงได้ให้ลูกน้องไปขับรถบรรทุกมาจอด เพื่อจะขนของไปส่งลูกค้าและหลังจากนั้นไม่นานซึ่งยังไม่ทันที่จะได้ขนของขึ้นรถ จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงเหมือนมีรถมาชนท้าย จึงได้ออกมาดูก็พบว่า มีรถจักรยานยนต์ซึ่งมีผู้หญิงเป็นคนขับและมีเด็กอ่อน ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นลูกคาอยู่ที่หน้าอก ชนเข้าที่บริเวณกันชนหลังขวาด้านท้ายรถแล้วรถล้มคว่ำลง เป็นเหตุให้ คนขับเสียชีวิต ส่วนเด็กเล็กนั้นได้มีลูกจ้างของร้านก๋วยเตี๋ยวซึ่งอยู่ใกล้กัน มาอุ้มออกไปจากกระเป๋าหน้าอกของผู้เสียชีวิต ตนจึงรีบโทรแจ้งตำรวจทันที
โดยกล้องวงจรปิดของตำรวจ สภ.เมืองปทุมธานี สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์เอาไว้ได้อย่างชัดเจน โดยพบว่า รถจักรยานยนต์ชนเข้ากับท้ายรถบรรทุก 6 ล้อ ที่จอดอยู่ริมทาง
ทาง ร.ต.อ.อุดมเกียรติ มาแจ้ง รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองปทุมธานี เปิดเผยว่า ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุบันทึกภาพเป็นหลักฐานและสอบปากคำพยานบุคคล เบื้องต้นตรวจสอบกล้องวงจรปิด และจะสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุว่าเกิดจากความประมาท จากรถคู่กรณีหรือไม่ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป นอกจากนี้ได้ให้อาสากู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญูนำร่างผู้เสียชีวิตส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์กระทรวงยุติธรรม เพื่อรอญาติรับศพกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป