สืบ ป.ป.ช. ภาค 4 จับอดีตเจ้าหน้าที่การเงิน อบต. ร่วมกับพวกสั่งจ่ายเช็คโดยมิชอบ 34 ฉบับ เสียหายรวมกว่า 3 ล้านบาท หนีไปกรีดยาง เก็บของเก่า
วันนี้ (26 ธ.ค.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป ช. นายประทีป จูฑะศร รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.ภาค 4 มอบหมายให้นักสืบสวนคดีทุจริต งานสืบสวนคดีทุจริต สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 4 ลงพื้นที่ทำการสืบสวนจับกุมนางดวงใจ หรือกุลศรี บุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่ จ.503/2566 ลงวันที่ 7 พ.ย.66 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนเองหรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย และฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้น การปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 147 และมาตรา 157
โดยนางดวงใจ ผู้ถูกกล่าวหาหรือบุคคลตามหมายจับ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่การเงิน องค์การบริหารส่วนตำบลแห่งหนึ่งในอำเภอหนองกุงศรี จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้ร่วมกับผู้ถูกกล่าวหารายอื่นของคดีนี้รวม 11 ราย สั่งจ่ายเช็คโดยมิชอบด้วยระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงิน การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงิน การเก็บรักษาเงิน และการตรวจเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2547 จำนวนทั้งสิ้น 34 ฉบับ รวมเป็นเงิน 3,314,768.58 บาท โดยนางดวงใจมีส่วนกระทำความผิด คือ เป็นผู้จัดทำและเขียนเช็คทั้ง 34 ฉบับ, ร่วมกับผู้ถูกกล่าวหาอีก 1 ราย ลงนามสั่งจ่ายเช็ค จำนวน 2 ฉบับ, ร่วมกับผู้ถูกกล่าวหาอีก 7 ราย นำเช็คทั้ง 34 ฉบับ ไปเรียกเก็บเงินกับธนาคารและธนาคารได้จ่ายเงินให้
โดยฟังว่ามีการสั่งจ่ายโดยไม่ชอบเพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่น และเบียดบังเอาเงินนั้นไปโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยินยอมให้ผู้อื่นเอาเงินนั้นไปเสีย จำนวน 19 ฉบับ และฟังว่ามีการสั่งจ่ายโดยไม่ชอบเพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่น จำนวน 15 ฉบับ รวมทั้งสิ้น 34 ฉบับ อันเป็นการกระทำไปเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่องค์การบริหารส่วนตำบลที่ผู้ต้องหาทำงานอยู่
การกระทำของนางดวงใจ จึงมีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนเองหรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย และฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 147 และมาตรา 157 เหตุเกิดเมื่อวันที่ 8 ต.ค.51 ถึงวันที่ 19 ส.ค.52
จากการสืบสวนทราบว่า นางดวงใจ มีพฤติการณ์หลบหนี ไม่มีที่พักอาศัยเป็นหลักแหล่ง เปลี่ยนที่อยู่ไปเรื่อย ๆ ลักษณะเป็นบ้านเช่า ประกอบอาชีพไม่เป็นกิจจะลักษณะ เช่น รับจ้างกรีดยาง เก็บของเก่าขาย โดยใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ จนกระทั่งพนักงานเจ้าหน้าที่ งานสืบสวนคดีทุจริต สำนักงาน ป.ป.ช.ภาค 4 สืบสวนทราบว่า นางดวงใจเคลื่อนไหวอยู่ในเขตพื้นที่ตำบลห้วยยาง อำเภอกระนวน จังหวัดขอนแก่น จึงลงพื้นที่ติดตามตัวพบนางดวงใจกำลังขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนอยู่บนถนนในเขตพื้นที่หมู่ที่ 5 ตำบลห้วยยาง อำเภอกระนวน จังหวัดขอนแก่น พนักงานเจ้าหน้าที่ฯ จึงเร่งติดตามไป และแสดงตัวว่าเป็นเจ้าพนักงาน จากนั้นได้แสดงหมายจับและอ่านหมายจับให้นางดวงใจฟัง
ซึ่งนางดวงใจรับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกันกับบุคคลตามหมายจับนี้จริง และยังไม่เคยถูกจับตามหมายจับนี้มาก่อน พนักงานเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาและแจ้งสิทธิให้ทราบ จากนั้นได้นำตัวไปยัง สภ.กระนวน จังหวัดขอนแก่น เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ทำบันทึกจับกุม เก็บลายพิมพ์นิ้วมือเพื่อจัดทำทะเบียนประวัติผู้ถูกกล่าวหา/ผู้ถูกจับของสำนักงาน ป.ป.ช. รวมทั้งแจ้งการควบคุมตัวไปยังอัยการและฝ่ายปกครองและดำเนินการอื่น ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้สูญหาย พ.ศ. 2565 จากนั้นได้ควบคุมตัวนำส่งพนักงานอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 4 เพื่อดำเนินการฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 ต่อไป