ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. 67 ที่ผ่านมา เกิดอุบัติเหตุรถขับย้อนศรเฉี่ยวชนกัน ซึ่งมีกล้องวงจรปิดบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง สถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจทางหลวง (ส.ทล.1 กก.8 บก.ทล.) นำโดย ร.ต.อ.รัศมี คำศรีแก้ว. พร้อม ร.ต.อ.อุดมศิลป์ ลีลาสมฤกษ์ รอง สว.ส.ทล.1 กก.8 บก.ทล., ด.ต.รพีพัฒน์ บุดดีคำ. และ ด.ต.ธนพล หอมขจร ผบ.หมู่ ส.ทล.1 กก.8 บก.ทล. เข้าควบคุม นางนพรัตน์ อายุ 55 ปี ชาว จ.ชลบุรี พร้อมรถกระบะตู้ทึบ สีขาว ทะเบียน ฒช 3700 กรุงเทพมหานคร ซึ่งสามารถควบคุมตัวได้บริเวณถนนทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 หรือ ถนนมอเตอร์เวย์ กม.4+300 ขาออก แขวงและประเวศ กทม. เวลาประมาณ 20.07 น.
การจับกุมดังกล่าว สืบเนื่องจาก ขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมปฏิบัติหน้าที่ พบเห็นรถกระบะคันดังกล่าว ขับย้อนศรมาจากถนนทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 เข้ามาบริเวณถนนทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 บริเวณ กม.4+300 ขาออก โดยรถกระบะคันดังกล่าวไม่ขับขี่ไปในเส้นทางที่กฎหมายกำหนด เพราะได้ใช้ช่องทางที่ 1 และ ช่องทางที่ 2 จากขอบทางด้านซ้าย ด้วยการขับรถย้อนศรด้วยความเร็ว โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนผู้อื่น เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เร่งสกัดจับ
ขณะเดียวกันในขณะที่ทำการสกัดจับ พบว่ารถกระบะคันดังกล่าวได้ประสบเหตุเฉี่ยวชนกับรถยนต์ของประชาชนที่ใช้เส้นทางถูกต้องได้รับความเส้นหาย จำนวน 4 คัน โดยรถคันที่ก่อเหตุมี นางนพรัตน์ เป็นคนขับ มีลักษณะคล้ายคนเมาสุรา ยืนทรงตัวไม่ได้ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงทำการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย ปรากฏว่าเป่าวัดได้ 289 มิลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งเกินกล่าที่กฎหมายกำหนด เมื่อสอบถามว่าไปดื่มมาจากไหน นางนพรัตน์ บอกว่า ดื่มไวน์มาจากบ้าน พอถามว่าทำไมขับรถย้อนศร นางนพรัตน์ ก็บอกว่า ไม่รู้ว่าตรงไหนที่ขับย้อนศรมา ทางตำรวจเลยบอกกลับไปว่า เพราะความเมา กระทั่งถามว่ายอมรับสารภาพไหม นางนพรัตน์ก็ยอมรับแต่โดยดี
ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แจ้งให้ นางนพรัตน์ ทราบว่า จะต้องถูกจับนำตัวส่งพนักงานสอบสวน ในความผิดฐาน 1.ขับรถในขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่นเป็นเหตุให้เฉี่ยวชนทรัพย์สินของผู้อื่น 2.ขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น พร้อมทั้งแจ้งสิทธิของผู้ถูกจับให้ทราบดีแล้ว จากนั้นนำตัวส่ง พนังงานสอบสวน ส.ทล.1 กก.8 บก.ทล. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป