เช้านี้ที่หมอชิต - ตามต่อคดี เจ้าของอู่รถจักรยานยนต์ร้องทนายดัง ให้ช่วยเหลือเรื่องคดี หลังถูกลูกเขยและหลานเขยที่เป็นตำรวจ ล็อคคอใส่กุญแจมือกระทืบสลบ ปมเหตุจากเรื่องที่ดินมรดกของอดีตภรรยา วานนี้อดีตภรรยาเจ้าของอู่โต้กลับเป็นหนังคนละม้วน
วานนี้อดีตภรรยา นายประเสริฐ เจ้าของอู่ซ่อมรถจักรยานยนต์ คือนางอำพร อายุ 48 ปี ได้เปิดใจกับสื่อว่า อยู่กินกับนายประเสริฐ มากว่า 20 ปี ส่วนสาเหตุที่เลิกรากัน เพราะเขาชอบดื่มสุราเมาแล้วอาละวาด ทุบทำลายข้าวของ ถึงขั้นยิงปืนข่มขู่ และปาน้ำมันใส่บ้านเพื่อจะจุดไฟเผา
นอกจากนี้ยังมีพฤติกรรมขู่อาฆาตญาติของตน แต่ญาติตนก็พยายามเลี่ยงเพราะไม่อยากมีปัญหา จุดที่ทนไม่ไหวและเป็นห่วงลูก 2 คนที่ต้องคอยวิ่งหนี เพราะกลัวจะถูกทำร้ายเวลาพ่อเมา จึงตัดสินใจแยกทางกันได้ 7 ปี แต่ยังให้เขาทำมาหากินที่ร้านซ่อมรถ เป็นที่ดินของพ่อกับแม่ตน ขอแค่สามีไม่มาระรานตนกับลูกก็พอ
ส่วนประเด็นที่ลูกเขยกับหลานเขยไปก่อเหตุ เนื่องจากวันเกิดเหตุ อดีตสามีไปก่อกวนบ้านพี่ชายของตน ตอนแรกโทรแจ้งตำรวจ แต่ตำรวจก็มาช้า จึงตัดสินใจโทรหาลูกเขยกับหลานชายให้มาช่วยเคลียร์ แต่ไม่คิดว่าเหตุจะบานปลายขนาดนี้
ยืนยันว่าที่ลูกเขยและหลานทำร้ายอดีตสามี ไม่เกี่ยวกับเรื่องทวงที่ดินมรดกคืน แต่เพราะสามีชอบระรานตน และญาติพี่น้องมาตลอด
ต่อมาทีมข่าวเดินทางไปยังร้านซ่อมรถที่เกิดเหตุ พบร้านถูกปิดล็อกไว้ จากการสอบถามนายประเสริฐบอกว่า ตั้งแต่วันที่ถูกลูกเขย และหลานเขยบุกทำร้าย ไม่กล้าเปิดร้าน เพราะกลัวจะไม่ปลอดภัย
ขณะที่ พันตำรวจโท เอกภพ เศรษฐพงษ์ สารวัตรใหญ่ สภ.หินเหล็กไฟ ในฐานะผู้บังคับบัญชาของ สิบตำรวจโท ซึ่งเป็นหลานเขยที่ไปทำร้ายร่างกาย และใส่กุญแจมือผู้เสียหายนั้น จะมีการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงตามขั้นตอน ผิดถูกก็ว่ากันไปตามพยานหลักฐาน ส่วนเรื่องคดีก็ต้องปล่อยให้เป็นการดำเนินการของ สภ.ท้องที่เกิดเหตุ