เจาะประเด็นข่าว 7HD - ไกด์สาว "ร้องสายไหมต้องรอด" เรียกแท็กซี่ออกจากบาร์ย่านสุขุมวิท 11 มาส่งที่สุขุมวิท 81 แต่พอขึ้นรถกลับไม่มีสติรู้สึกตัวอีกทีร่างกายถูกทำร้ายและทรัพย์สินหาย
นี่เป็นสภาพของผู้หญิงคนหนึ่ง อายุ 47 ปี มีอาชีพเป็นไกด์อิสระ ที่ไปปาร์ตี้สังสรรค์มา แต่ตื่นอีกทีพบว่าตัวเองนอนอยู่ริมถนน ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยปูดบวม และช้ำเขียว ทรัพย์สินทั้งเงินทอง และโทรศัพท์มือถือราคากว่า 40,000 บาท หายเกลี้ยง สิ่งที่อยู่ในภาพจำคือรถแท็กซี่ จึงปักใจเชื่อว่าถูกโชเฟอร์วางยาเพื่อชิงทรัพย์
โดยผู้เสียหาย เล่าเหตุการณ์ว่า วันที่ 26 ธันวาคมที่ผ่านมา เธอออกไปดื่มกับเพื่อนที่บาร์แห่งหนึ่ง ภายในซอยสุขุมวิท 11 หรือซอยนานา ดื่มเป็นเบียร์ขวดเล็ก ประมาณ 5-6 ขวด จนร้านปิดประมาณ 03.00 น. ตอนขากลับ จำได้ว่าโบกเรียกแท็กซี่คันหนึ่ง แต่ขึ้นไปนั่งได้ไม่ถึงนาที เธอก็หมดสติไป รู้สึกตัวอีกที ตอนที่วินรถจักรยานยนต์มาปลุก และพยายามสอบถามความเป็นมา แต่เธอจำอะไรไม่ได้เลย รู้แค่ว่าอยากกลับห้องไปนอน จึงขอให้วินไปส่งที่พัก ห่างจากจุดที่พบประมาณ 700 เมตร
แล้วก็ตื่นมาอีกครั้งตอน 16.00 น. พบว่าตัวเองมีสภาพที่ดูไม่ได้ จึงพยายามไล่เรียงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งน่าแปลกที่เธอจำเหตุการณ์หลังขึ้นรถแท็กซี่ไม่ได้เลย และเธอยืนยันว่าวันนั้นไม่ได้ดื่มหนักจนภาพตัดไม่รู้เรื่องราว สำรวจร่างกายก็ไม่พบว่าถูกละเมิดทางเพศแต่อย่างใด จึงคาดว่าอาจถูกแท็กซี่วางยา เพื่อชิงทรัพย์แน่นอน
หลังตั้งสติได้ เธอจึงเข้าแจ้งความที่ สน.พระโขนง แต่ตำรวจบอกว่าต้องไปแจ้งในจุดที่เรียกแท็กซี่ พื้นที่ สน.ลุมพินี แต่พอไปถึง ตำรวจก็บอกว่าต้องไปแจ้งในพื้นที่ที่เธอตื่นขึ้นมา สรุปตำรวจโยนกันไป โยนกันมา จะไปขอกล้องวงจรปิดก็ไม่ได้อีกเพราะต้องใช้ใบแจ้งความ เธอไม่รู้จะทำอย่างไรดี จึงเข้าร้องสายไหมต้องรอดแทน
เบื้องต้น นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พาผู้เสียหายเข้าร้องทุกข์ที่ สน.พระโขนง เพื่อให้ช่วยติดตามคดีด้วยความใกล้ชิด เพราะเป็นภัยแก่ผู้เดินทางคนเดียวในยามค่ำคืน
