ลูกเรืออยู่ในอาการช็อก หลังรอดชีวิตจากเหตุเครื่องบิน “เจจูแอร์” ไถลออกนอกรันเวย์

ลูกเรือ 2 คน ที่รอดชีวิตจากเหตุเครื่องบิน “เจจูแอร์” ไถลออกนอกรันเวย์ อยู่ในอาการช็อก-คล้ายจำเรื่องราวไม่ได้ ซึ่งทั้งสองนั่งอยู่ส่วนท้ายของตัวเครื่อง และส่วนหางด้านหลังหลุดออกมาระหว่างการชนกัน

วันนี้ (29 ธ.ค. 67) จากเหตุเครื่องบินสายการบิน “เจจูแอร์” ที่เดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ ประสบอุบัติเหตุไถลออกนอกรันเวย์ชนกำแพงสนามบินมูลัน ประเทศเกาหลีใต้ ก่อนระเบิดและเพลิงลุกไหม้ ซึ่งมีผู้โดยสาร 175 คน และนักบินกับลูกเรืออีก 6 คน รวม 181 คน ซึ่งมีหญิงไทย 2 คน จนถึงขณะนี้ยังไม่ทราบว่าปลอดภัยหรือไม่ ล่าสุดมีรายงานผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 124 คน และมีผู้รอดชีวิต 2 คน

โดยผู้รอดชีวิตทั้ง 2 คน เป็นลูกเรือชายและหญิง ซึ่งนั่งรัดเข็มขัดอยู่บริเวณทางออกฉุกเฉินท้ายเครื่อง ซึ่งเป็นช่วงเดียวของตัวเครื่อง ที่ไม่เสียหายหนักเท่าส่วนอื่น ๆ ซึ่งเจ้าตัวยังคงรู้สึกช็อกให้รายละเอียดใด ๆ ไม่ได้มากนัก

ทางลูกเรือวัย 33 ปี ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลมอกโป ซึ่งแพทย์ถามว่า “เจ็บตรงไหนหรือไม่” เจ้าตัวตอบว่า “เขามาที่นี่ได้ยังไง” คล้ายกับจำเรื่องอุบัติเหตุไม่ได้ ซึ่งเจ้าตัวได้รับบาดเจ็บที่ไหล่ซ้ายและศีรษะ แต่ยังรู้สึกตัวอยู่ ขณะที่ลูกเรืออีกคนวัย 20 ปี ได้รับการช่วยเหลือเช่นกัน

ขณะที่ผู้โดยสารที่เป็นหญิงไทย 2 คน นั้นมีอายุ 45 ปี แลอยุะ 22 ปี คาดว่าเป็นคนไทยที่ไปทำงานที่เกาหลีใต้ และยังไม่ทราบว่าปลอดภัยดีหรือไม่ ซึ่งอยู่ระหว่างรอการยืนยันอย่างเป็นทางการ

ด้าน พัค ซัง-วู รัฐมนตรีกระทรวงที่ดูแลด้านคมนาคมและเจ้าของสายการบินเชจู และ คิม อี-แบ ประธานสายการบินเชจูแอร์ แถลงขออภัยและแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต และยืนยันว่าจะให้ความช่วยเหลือและให้ความร่วมมือในการตรวจสอบอุบัติเหตุครั้งนี้อย่างเต็มที่

ส่วนสาเหตุที่ทำให้เที่ยวบินนี้ประสบอุบัติเหตุ มีหลายประเด็นซึ่งจะเห็นว่าขณะลงจอด ล้อเครื่องบินไม่กาง ตัวท้องเครื่องจึงกระแทกพื้น ไถลออกนอกรันเวย์ ไปชนกับกำแพงรั้วกั้นสนามบินอย่างแรง ก่อนระเบิด เกิดเพลิงลุกไหม้
ส่วนอีกสาเหตุที่ทำให้ล้อเครื่องบินไม่กาง มีรายงานว่า เครื่องบินอาจชนนกหรือมีนกมาชน จนทำให้การทำงานของล้อเครื่องบินขัดข้อง เพราะเป็นไปได้น้อยมากที่นักบินจะลงจอดโดยลืมกางเครื่องบิน
นอกจากนี้ยังมีการตั้งคำถามถึงมาตรฐานความปลอดภัยของสนามบินนานาชาติมูอัน ซึ่งดูเหมือนระยะทางรันเวย์จนถึงกำแพงรั้วสั้นกว่าปกติเล็กน้อย และอาจไม่มีหลุมทรายนิรภัย ทำให้เครื่องไถลไปชนกำแพงรั้วอย่างแรง