ตำรวจควบคุมตัวได้แล้ว โจ๋ 16 ปี มือแทงตัดขั้วหัวใจโจ๋ห้าว วัย 17 ปีดับ ส่วนมูลเหตุมาจากผิดใจกันของกลุ่มวัยรุ่น ส่วนผู้ก่อเหตุมีเพียง 4-5 คน ไม่ใช่ 30 คน
วันนี้ ( 1 ม.ค.67 ) ทีมข่าวเปิดใจ นายแบงค์ อายุ 17 ปี คนขี่รถจักรยานยนต์ให้นายรถถัง โจ๋ 17 ปี ที่ถูกแทงเสียชีวิต โดยเล่าว่า ตนเองรู้จักกับเด็กชายฮาเล่ย์ ที่เป็นรุ่นน้อง แต่ไม่ทราบว่าเด็กชายวิน เป็นคนชวนเด็กชายฮาเล่ย์ ให้ไปช่วยเคลียร์ใจกับกลุ่มคู่อริภายในซอยจรัญสนิทวงศ์ 54 ทราบเพียงว่าจะไปนั่งเล่นกับเพื่อน ๆ ตนเองจึงตามไปด้วย แต่เมื่อไปถึงก็ถูกกลุ่มวัยรุ่นที่อยู่ภายในซอย ไล่ฟันเข้าที่ใบหน้า ถีบรถจักรยานยนต์ของตนเองล้ม และแทงนายรถถัง ตนพยายามวิ่งหนีเข้าไปในหอพัก ส่วนนายรถถัง วิ่งตามมา และขึ้นไปที่ชั้น 2 จากนั้นนายรถถังก็บอกว่า "ไม่ไหวแล้ว" ตนเองจึงรีบวิ่งไปเคาะห้องพักทุกห้องเพื่อขอความช่วยเหลือ ก่อนจะกลับมาดูนายรถถัง ก็พบว่าไม่หายใจแล้ว และมีคนในหอพักพยายามมาช่วยเหลือ แต่ก็ไม่ทันกาล
นอกจากนี้ระหว่างที่ตนเองกำลังทำแผลกับเจ้าหน้าที่กู้ภัย และมีตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุแล้ว แต่ก็ยังมีพวกของกลุ่มคู่อริ ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ บุกเข้ามาต่อยตนเองต่อหน้าตำรวจ จึงทำได้เพียงก้มหน้าปัดป้องเท่านั้น ส่วนบาดแผลที่ถูกฟันเข้าที่ใบหน้าก็ต้องเย็บถึง 22 เข็ม
พ.ต.อ. พายัพ สมบูรณ์ ผกก. สน.บางยี่ขัน เปิดเผยว่า เบื้องต้นควบคุมตัวผู้ก่อเหตุได้แล้ว 1 คน คือนายพาย อายุ 16 ปี เจ้าตัวก็ยอมรับว่าใช้มีดแทงอีกฝ่ายจริง มูลเหตุมาจากการผิดใจกันของกลุ่มวัยรุ่น ไม่ใช่ลักษณะล่อลวงเข้ามาทำร้ายในซอย ส่วนอีกคนที่ใช้มีดฟัน คือนายเอิร์ธ ทางผู้ปกครองประสานว่าจะพาเข้าพบตำรวจ แต่ก็ยังไม่มา ซึ่งตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ ส่งชุดสืบสวนไปติดตามตัวแล้วเช่นกัน เบื้องต้นจะต้องดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น ,ร่วมกันทำร้ายร่างกาย ,และพกพาอาวุธมีดไปในทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร
ส่วนกลุ่มผู้ก่อเหตุที่เหลือ มีอีก 2 คนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่ยังไม่พบว่ามีส่วนในการร่วมกันทำร้าย จึงจะสอบปากคำไว้เป็นพยาน และยังไม่ได้มีการแจ้งข้อหาดำเนินคดีกับทั้ง 2 คน และจากการตรวจสอบพยานหลักฐาน และกล้องวงจรปิดในจุดเกิดเหตุ พบว่ามีเพียง 4-5 คนที่ร่วมก่อเหตุ ไม่ใช่กว่า 30 คนตามที่ฝ่ายผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บกล่าวอ้าง แต่เป็นลักษณะของชาวบ้านในชุมชนที่นั่งสังสรรค์ปีใหม่อยู่บริเวณดังกล่าว ทำให้มีการมามุงดู และห้ามปรามกันจนชุลมุน ทำให้จากกล้องวงจรปิดอาจดูเหมือนมีคนจำนวนมาก
ส่วนกรณีที่นายแบงค์ ที่ถูกฟันหน้า อ้างว่ามีกลุ่มผู้ก่อเหตุที่เป็นผู้ใหญ่ เข้ามาต่อยหน้าระหว่างที่ทำแผล ต่อหน้าต่อตาตำรวจ ผู้กำกับการ สน.บางยี่ขัน ยืนยันว่าไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าวแต่อย่างใด
ทั้งนี้ผู้กำกับการ สน.บางยี่ขัน บอกด้วยว่า เยาวชนที่ก่อเหตุเป็นกลุ่มที่ตำรวจได้เคยทำประวัติเยาวชนไว้แล้ว เพราะเป็นกลุ่มเปราะบาง เนื่องจากไม่ได้เรียนหนังสือ ผู้ปกครองไม่มีเวลาดูแล มักจะมารวมกลุ่ม และขี่รถจักรยานยนต์ในพื้นที่บ่อยครั้ง คืนวันเกิดเหตุเป็นคืนปีใหม่ ทำให้ผู้ปกครองปล่อยบุตรหลานออกมาสังสรรค์ จนเกิดเหตุเช่นนี้ขึ้น จึงขอฝากเตือนผู้ปกครองให้หาคนที่บุตรหลานยอมฟังมาช่วยดูแล เพราะแม้ตำรวจจะเข้าไปอบรมดู แต่เยาวชนเหล่านี้ก็ไม่ยอมรับฟังเท่าคนใกล้ชิด