จ่อย้ายคุกแยกขัง 40 นักโทษเชียร์บอลยกพวกตีกัน

จ่อย้ายคุกแยกขัง 40 นักโทษเชียร์บอลยกพวกตีกัน

View icon 282
วันที่ 1 ม.ค. 2568 | 15.49 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
รองโฆษกราชทัณฑ์ เผยเตรียมแยกผู้ต้องขังเรือนจำกลางปัตตานี 40 คน ทะเลาะวิวาทหลังเชียร์ฟุตซอล ไปเรือนจำกลางสงขลา-เรือนจำจังหวัดนราธิวาส ยังไม่พบมูลเหตุอื่น นอกจากกระทบกระทั่งเรื่องแข่งกีฬา

ความคืบหน้ากรณีเรือนจำกลางปัตตานี จัดกิจกรรมให้ผู้ต้องขังเตะบอลในคุก กองเชียร์นักโทษยกพวกตะลุมบอน เสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บ 12 คน ล่าสุด วันนี้ (1 ม.ค.67) นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ในฐานะรองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า วานนี้ (31 ธ.ค. 67) เรือนจำกลางปัตตานี ได้มีการจัดกิจกรรมแข่งขันฟุตซอล เนื่องในเทศกาลปีใหม่ เพื่อให้ผู้ต้องขังได้ผ่อนคลาย ได้มีกิจกรรมออกกำลังกาย แต่ปรากฎว่ากองเชียร์ได้เกิดการกระทบกระทั่งกัน ซึ่งผู้คุมก็ได้พยายามเข้าไปแยก จนสถานการณ์คลี่คลาย

ต่อมาวันนี้ (1 ม.ค. 68) ผู้ต้องขังที่กระทบกระทั่งกันยังมีอารมณ์ไม่พอใจค้างตาใจกันอยู่ จึงยกพวกตีกัน เป็นเหตุให้มีผู้ต้องขังเสียชีวิต 1 คน จากการถูกแทงเข้าที่หน้าอก อาวุธถูกบริเวณหัวใจ และยังมีผู้ต้องขังที่ได้รับบาดเจ็บอีกนับ 10 คน เจ้าหน้าที่นำตัวส่งโรงพยาบาลปัตตานี ขณะนี้ยังมีผู้ต้องขังที่อาการสาหัส รักษาในห้องไอซียู 1 คน

“ ขั้นตอนต่อไปต้องดำเนินการตามกฎหมาย และต้องสอบสวนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยละเอียด เบื้องต้นคาดว่ามีนักดทษประมาณ 40 คน ที่รวมตัวกันเป็น 2 ฝ่าย หลังสอบสวนแน่ชัด จะแยกผู้ต้องขังทั้ง 2 กลุ่มออกจากกัน ส่งตัวไปยังเรือนจำกลางสงขลา และเรือนจำจังหวัดนราธิวาส เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ”

รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยด้วยว่า สำหรับอาวุธที่ใช้แทงหน้าอกของผู้ต้องขังที่เสียชีวิตนั้นผู้ก่อเหตุได้อาศัยจังหวะชุลมุนไปดึงเหล็กที่อยู่บริเวณรั้ว ความยาวประมาณ 6-7 นิ้ว มาก่อเหตุ ทั้งนี้ จากการสอบสวนเบื้องต้น ยังไม่พบว่าผู้ต้องขังมีเหตุทะเลาะวิวาท หรือแบ่งพรรคพวกจากเรื่องอื่นกันมาก่อน มีเพียงแต่มูลเหตุเรื่องการแข่งขันกีฬาเท่านั้น

“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เรือนจำฯ ก็ไม่ได้ตั้งใจให้เกิดเหตุร้ายขึ้น เพียงแต่ต้องการให้ผู้ต้องขังได้ทำกิจกรรมร่วมกันเท่านั้น ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยจัดกิจกรรมลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง ยอมรับว่าเคยมีการกระทบกระทั่ง ไม่พอใจกัน แต่ยังไม่เคยบานปลายถึงขนาดทำร้ายร่างกายกันแบบนี้”

หลังจากนี้ ทางเรือนจำกลางปัตตานี จะมีมาตรการเข้มงวดมากขึ้น โดยจะป้องกันการรวมกลุ่มพรรคพวก ด้วยการจับแยกผู้ต้องขังที่มีแหล่งภูมิลำเนาเดียวกันออกจากกันไปอยู่คนละแดน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง