เอือมระอา! โชเฟอร์รถตู้หาเรื่องทะเลาะกับอดีตภรรยาเป็นประจำ ลุงเพื่อนบ้านไปตักเตือน โดนทำร้ายเย็บกว่า 20 เข็ม
วันนี้ (2 ม.ค.68) วานนี้ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งย่าน ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายอำพล หรือลุงพล อายุ 63 ปี อดีตเซลล์ขายรถยนต์ ยี่ห้อดังแห่งหนึ่ง หลังถูกหนุ่มขับวินรถตู้ที่มาหาอดีตภรรยาและมีบ้านติดกับตนเอง ยืนด่าอดีตภรรยาแทบทุกวัน จนชาวบ้านเอือมระอา พอตนเองเข้าไปตักเตือน ก็ถูกทำร้ายจนต้องเย็บกว่า 20 เข็ม
โดยภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพขณะรถตู้ของผู้ก่อเหตุ คือนายเติมศักดิ์ อายุ 40 ปี ขับเข้ามาจอดที่หน้าบ้านอดีตภรรยา เมื่อเวลา 21.00 น. ของคืนวันที่ 29 ธันวาคม 67 ซึ่งมีบ้านนติดกับตนเองก่อนจะลงมาด่าอดีตภรรยาจนเสียงดังลั่น เป็นที่เอือมระอาของเพื่อนบ้าน โดยภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพได้อย่างชัดเจน ขณะคู่กรณีทำร้ายลุงพล จนเลือดอาบ
ลุงพล เล่าว่า พอตนเข้าไปตักเตือนนายตั้มได้ตรงเข้ามา ขณะนั้นตนได้หยิบไม้ซึ่งอยู่ในบ้านขึ้นมาเพื่อป้องกันตัว แต่นายตั้มก็ไม่สนใจ ตรงเข้ามาชกต่อยทำร้ายตนเอง ก่อนจะใช้ถุงซึ่งภายในไม่ทราบว่ามีอาวุธอะไรจิ้มมาที่หัว ข้างหู ซ้าย แก้มซ้าย ดั้งจมูก จนเป็นรูลึกเลือดไหลอาบ เพื่อนบ้านต้องช่วยกันนำน้ำมาล้างแผลที่ชุ่มเลือดก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาล แพทย์ต้องเย็บบาดแผลให้กว่า 20 เข็ม
ส่วนนายตั้ม หลังก่อเหตุได้หลบหนีออกจากหมู่บ้านไป ตนเข้าแจ้งความกับตำรวจก่อนหน้านี้หลายครั้งแล้ว แต่ตำรวจก็พูดว่ายังไม่เกิดเหตุไม่สามารถทำอะไรได้ จนกระทั่งมาเกิดเรื่องแบบนี้ ตนคิดว่าต้องรอให้ตนตายก่อนมั้ง เขาถึงจะรับแจ้งความ ตนอยากให้ตำรวจดำเนินคดีกับนายตั้มให้ถึงที่สุด เพราะประพฤติตัวและก่อเหตุแบบนี้จนชาวบ้านในหมู่บ้านเอือมระอา ตนอยู่คนเดียวรู้สึกกลัวมาก หวั่นจะกลับมาก่อเหตุทำร้ายตนอีก
ด้านเพื่อนบ้านตรงข้ามกับผู้ก่อเหตุ เผยว่า นายตั้มพูดจาหาเรื่อง ท้าตีท้าต่อยทั้งๆที่เป็นผู้หญิงอยู่ประจำ จนรู้สึกกลัว ทางประธานหมู่บ้านจึงได้นำกล้องวงจรปิดมาติดไว้ที่หน้าบ้านตนเพื่อป้องกันเหตุร้าย และก็ได้กล้องตัวนี้แหละที่เห็นภาพขณะนายตั้มทำร้ายลุงพล ตอนนี้ก็รู้สึกกลัวมาก ไม่อยากให้กลับเข้ามาในหมู่บ้านนี้อีกเลย
นางชุติปภา อายุ 62 ปี ประธานชุมชนในหมู่บ้านแห่งนี้ เผยว่า ผู้ก่อเหตุสร้างความเดือดร้อนรำคาญกับคนในหมู่บ้านมาตลอด ชอบแอบเข้ามาด่าทออดีตภรรยาจนเป็นที่เอือมระอาของชาวบ้าน ทุกครั้งที่เข้ามาก็มักจะจอดรถตู้ กีดขวางหน้าบ้านคนอื่นประจำ ตนเคยขอร้องตักเตือนก็ไม่สนใจ ที่แปลกใจคือ ตนเองเห็นว่ารถตู้คันที่เขาขับอยู่มักเปลี่ยนทะเบียน ป้ายเหลืองบ้างป้ายขาวบ้าง ก็ไม่รู้ว่าเป็นรถตู้ผิดกฎหมายหรือเปล่า รู้แต่ว่าวิ่งอยู่ระหว่างอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ-บางบัวทอง
ก่อนเกิดเรื่องทำร้ายลุงพล ตนเคยแจ้ง ตำรวจไปหลายครั้งแล้วก็มักจะอ้างว่ายังไม่เกิดเหตุ จนกระทั่งมาเกิดเรื่องในครั้งนี้ผู้เสียหายไปแจ้งความก็ยังทำท่าเหมือนจะไม่รับแจ้ง จนต้องขอร้องสุดท้ายก็ได้แค่ลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐานให้กลับมาแค่ใบเดียว หมู่บ้านเรามีแต่ผู้หญิงและคนแก่ แม้แต่ รปภ.ก็เป็นผู้หญิง ต่างก็หวาดกลัว อยากให้ผู้สื่อข่าวเป็นสื่อกลางเป็นกระบอกเสียงไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาจัดการ อย่าให้ผู้ก่อเหตุเข้ามาในหมู่บ้านแห่งนี้อีกเลย
