แฉอีก! พระลูกวัดเสพไอซ์และอนาจารเด็กชาย พยานแฉ พระจ้างโยมผู้ชายและเด็กชาย ไปมีเพศสัมพันธ์และอมนกเขา ครั้งละ 600 บาท ตร.จ่อขยายผลจับคนขายยาให้พระ ส่วนเคสอนาจารยังไม่มีผู้เสียหายแจ้งความ
จากกรณีที่วานนี้ (1 ม.ค.68) ตำรวจและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ลงพื้นที่ตรวจสอบที่วัดแห่งหนึ่งในตำบลละเวี้ย อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ หลังได้รับร้องเรียนจากพลเมืองดี พร้อมคลิปหลักฐานว่าพระลูกวัดภายในวัดดังกล่าว มีพฤติกรรมมั่วสุมเสพไอซ์ในกุฏิ และหลอกลวงเด็กชายอายุ 12 ขวบ ไปกระทำอนาจารด้วยการอมนกเขาเพื่อสำเร็จความใคร่
ความคืบหน้า ล่าสุด 2 ม.ค.68 จากการตรวจสอบค้นกุฏิของพระพลอย อายุ 31 ปี ซึ่งเป็นพระลูกวัดที่ถูกร้องเรียน ไม่พบยาเสพติดหรืออุปกรณ์ในการเสพ แต่จากการตรวจปัสสาวะพบสารเสพติดในร่างกาย ซึ่งพระพลอย ก็ยอมรับว่าเสพยาไอซ์จริง และคลิปหลักฐานที่มีการร้องเรียนก็เป็นตัวเองจริง โดยอ้างว่าเสพเพราะคลายเครียด หลังตรวจเจอว่าป่วยเป็นโรคร้าย (เอชไอวี) แต่ปฏิเสธว่าไม่ได้กระทำอนาจารเด็กชายตามที่ถูกกล่าวหา อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัวพระพลอยไปทำการสึกก่อนจะนำตัวไปสอบปากคำและดำเนินคดีตามกฎหมาย
คลิกอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : จับคากุฏิ พระเสพไอซ์ อ้างเสพคลายเครียดหลังตรวจพบติดโรคร้าย แต่ปฏิเสธไม่ได้อนาจารเด็กชาย จับสึกดำเนินคดีถึงคนขาย
ขณะที่ นายเอ็ม พลเมืองดีที่ปลอมตัวไปร่วมเสพยากับพระ เพื่อถ่ายคลิปเป็นหลักฐาน เพราะรับไม่ได้กับพฤติกรรมของพระ และไม่อยากให้วงการศาสนาเสื่อมเสีย ก็ได้เผยคลิปขณะที่พระพลอย จ่ายเงินจ้าง นายเอ็ม ไปให้มีเพศสัมพันธ์ด้วย โดยจ่ายเงินจ้างจำนวน 600 บาท แต่นายเอ็ม บอกว่าตัวเองไม่ได้มีเพศสัมพันธ์กับพระรูปดังกล่าว แต่เพื่อให้ได้หลักฐานจึงยอมให้พระอมนกเขาเท่านั้น และมีการจับอวัยวะเพศ เมื่อได้หลักฐานแล้วก็ขอตัวกลับ
นายเอ็ม ยังให้ข้อมูลว่าพระรูปดังกล่าว นอกจากจะมีพฤติกรรมเสพยาไอซ์แล้ว ยังติดต่อจ้างโยมผู้ชาย และเด็กผู้ชายอายุประมาณ 10 – 12 ปีไปกระทำอนาจารด้วยการอมนกเขาเพื่อสำเร็จความใคร่ โดยพระจะจ่ายค่าจ้างให้ครั้งละ 600 บาท ส่วนใหญ่จะก่อเหตุในรีสอร์ต ที่ตนเองรู้เรื่องเพราะมีเด็กในหมู่บ้านมาเล่าให้ฟัง และพระยังวานเด็กให้มาติดต่อตนเองว่าพระอยากรู้จัก ตนจึงใช้โอกาสนี้ทำเนียนเข้าไปหาพระร่วมเสพยาด้วย จากนั้นพระก็ใช้มือลูบไล้จับอวัยวะเพศ และขออมนกเขา โดยจะให้ค่าจ้าง 600 บาท เพื่อให้ได้คลิปหลักฐานจึงยอมให้ทำแต่ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์กัน แต่กับโยมคนอื่น หรือเด็กคนอื่นตนไม่ทราบ แต่เมื่อได้คลิปหลักฐานแล้วจึงได้นำไปร้องเรียนเพื่อให้เอาผิดกับพระรูปนี้ เพราะรับไม่ได้ที่พระมีพฤติกรรมแบบนี้ และยิ่งล่าสุดมารู้ว่าพระป่วยเป็นโรคร้าย (เอชไอวี) ก็ตกใจและไม่อยากให้เด็กคนอื่นตกเป็นเหยื่อ ส่วนตัวก็พร้อมไปให้การเป็นพยานกับตำรวจ เพราะไม่อยากให้ศาสนาเสื่อมเสียเพราะยังพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบอีกมาก