ห้องข่าวภาคเที่ยง - ขึ้นชื่อว่าอุบัติเหตุ ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่ถ้าใครเป็นคนทำประมาท แล้วทำให้คนอื่นเดือดร้อน ก็ต้องรับผิดชอบกับผลการกระทำด้วย แต่ประเด็นคือ หลายคดีไม่รับผิดชอบ จนผู้เสียหายเดือดร้อน ต้องมาร้องขอความเป็นธรรม
อย่างคดีนี้ภาพอาจดูยากนิดหนึ่ง เพราะเป็นภาพมุมจอ จากภาพจะเห็นหญิงคนหนึ่ง ขี่รถจักรยานยนต์มาตามเส้นทางดี ๆ ขี่ไม่ได้เร็วมาก แต่พอกำลังจะขี่ผ่านรถบรรทุกที่จอดอยู่ริมถนน รถจักรยานยนต์ของเธอก็เหมือนถูกกระชากขึ้นมา จนทำให้เธอได้รับบาดเจ็บ
ลูกชายของผู้หญิงคนนี้เป็นคนนำภาพวงจรปิดอันนี้ พร้อมกับภาพอาการบาดเจ็บของ "แม่" ไปร้องขอความช่วยเหลือกับเพจฯ สายไหมต้องรอด ว่าเหตุที่แม่ของเขาต้องบาดเจ็บ ก็เพราะคนขับรถบรรทุกชุ่ยมาก โยนเชือกรัดของข้ามรถบรรทุกไม่ดูตาม้าตาเรือ
แล้วเชือกไปเกี่ยวเข้ากับล้อหลังรถจักรยานยนต์ของแม่ จนรถตั้งเด่แบบนี้ ส่วนแม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส กระดูกหัวเข่าแตกร้าว ต้องเข้าเฝือก เปลือกตาฉีกเย็บไป 4 เข็ม กล้ามเนื้อฟกช้ำทั้งตัว หัวไหล่กระแทกพื้นจนแขนยกไม่ขึ้น ที่สำคัญหลังเกิดเหตุ คู่กรณีไม่มาสนใจใยดี ไม่เคยติดต่อ หรือมาเยี่ยมถามไถ่อาการแม้แต่น้อย แถมสอบถามกับตำรวจไป คดีไม่คืบหน้า เลยต้องมาขอความช่วยเหลือ
นอกจากนี้ยังมีผู้เสียหายอีกราย เป็นพี่ชาย มาขอความช่วยเหลือแทนน้องที่บาดเจ็บสาหัส จากการถูกขับรถเฉี่ยวชน เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2567 ภาพวงจรปิดบันทึกเหตุการณ์ไม่ค่อยชัดเจน แต่พอเห็นเค้าลางคร่าว ๆ จะเห็นว่า ผู้บาดเจ็บขี่รถจักรยานยนต์มาตามเส้นทาง แล้วจุดที่ชนมีป้ายบอกทางบังไว้พอดี
พอย้อนหาภาพวงจรปิดก่อนจะถึงจุดนี้ จะเห็นว่ารถของผู้บาดเจ็บ วิ่งอยู่ในช่องทางกลาง ส่วนรถคู่กรณีวิ่งอยู่ในช่องทางขวาสุด มีรถยนต์ และรถจักรยานยนต์อย่างละคัน ที่ขับขี่ตามท้ายมาน่าจะเห็นเหตุการณ์
เหตุที่พี่ชายต้องมาร้องขอความเป็นธรรมแทนน้อง ก็เพราะไปแจ้งความกับตำรวจแล้ว ถึงรู้ว่าคู่กรณีเป็นตำรวจ อคฝ. ยศสิบตำรวจโท แล้วได้ข่าวมาว่ามีตำรวจยศสูง พยายามจะบีบบังคับให้น้องชายเป็นฝ่ายผิดฝ่ายเดียว ตนเองเห็นว่าน้องไม่ได้รับความเป็นธรรม เลยต้องมาขอความช่วยเหลือเช่นกัน