ฉลองปีใหม่ ยิงปืนลงน้ำอาจมีความผิด

View icon 37
วันที่ 2 ม.ค. 2568 | 11.22 น.
ห้องข่าวภาคเที่ยง
แชร์
ห้องข่าวภาคเที่ยง - ปีใหม่เป็นเหตุ เฉลิมฉลองหนักไปหน่อย สร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่น เริ่มที่แก๊งนี้ไม่ยิงปืนขึ้นฟ้า แค่ยิงปืนลงน้ำ

ฉลองปีใหม่ ยิงปืนลงน้ำอาจมีความผิด
ชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่ง ถือปืนคนละกระบอก มีทั้งปืนสั้น ปืนยาว แล้วร่วมกันยิงกระสุนลงน้ำ ในพื้นที่ตำบลท่าซัก อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช คาดว่าอยากให้ชีวิตในปีนี้ปัง ๆ เหมือนเสียงปืน และอยากให้ชีวิตไหลลื่นคล้ายสายน้ำ

แต่หารู้ไม่ ว่าการยิงปืนลงน้ำก็อาจมีความผิดไม่ต่างกับการยิงปืนขึ้นฟ้า หากผืนน้ำบริเวณดังกล่าว เป็นพื้นที่สาธารณะ เช่น แม่น้ำ ลำคลอง เพราะเข้าข่ายการใช้อาวุธปืนในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร ถ้าหากยิงลงน้ำในพื้นบ้านของตัวเองไม่เป็นไร เช่น บ่อน้ำ สระน้ำ

เมาหนักจนเขม่นหน้า ปาระเบิดโดนเด็ก 1 ขวบ
ส่วนเหตุการณ์นี้ อยู่ในช่วงเฉลิมฉลองปีใหม่ที่ จังหวัดตรัง มีแก๊งวัยรุ่นทะลุถุงที่นั่งดื่มกินคืนเคานต์ดาวน์ แล้วเขม่นกัน จัดฉลองปีใหม่แบบไม่สนโลก ปาระเบิดปิงปองใส่กันหลังเมาจนขาดสติ แต่คนรับเคราะห์เป็นเด็กชายอายุเพียง 1 ขวบ จนน้องบาดเจ็บ มีผ้าพันแผลตามลำตัว และมือซ้ายนี้

พ่อและน้าสาว ของน้องสกาย ก็เข้าแจ้งความกับ ตำรวจ สภ.สิเกา พร้อมให้ปากคำและนำคลิปหลักฐาน มอบให้พนักงานสอบสวน จึงอยากให้ตำรวจเร่งติดตาม แก๊งวัยรุ่นกลุ่มนี้มาดำเนินคดีโดยเร็ว และอยากให้อีกฝ่ายกล่าวขอโทษน้องด้วยความจริงใจ เพราะน้องสกาย ต้องบาดเจ็บเย็บบริเวณรักแร้ไปถึง 7 เข็ม และยังพบภาวะปอดช้ำ ต้องย้ายไปรักษาตัวที่ รพ.ศูนย์ตรัง

ตามหามือดี จุดพลุโดนเด็ก 7 ขวบ บาดเจ็บ
ต่อกันอีกกรณี ที่หาดจอมเทียน เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี พ่อพาลูกไปเคานต์ดาวน์ แต่เกิดเหตุพลุระเบิดใส่ลูก

เรื่องนี้ พ่อของเด็กที่บาดเจ็บ ขอความช่วยเหลือจากสื่อฯ ให้ช่วยหาเบาะแสผู้ก่อเหตุมารับผิดชอบ เพราะลูกสาวอายุ 7 ขวบ ได้รับบาดเจ็บถึงขั้นต้องเข้าโรงพยาบาล หลังถูกพลุของใครไม่รู้ระเบิดใส่

ลูกสาวบาดเจ็บมีแผลทั่วร่างกาย โดยเฉพาะที่หน้าท้องมีแผลพุพอง เสื้อผ้าไหม้เกรียม ก่อนรีบรักษาตัวที่โรงพยาบาลใกล้เคียง และเดินทางกลับกรุงเทพฯ

ปล่อยโคมลอย ร่วงโดนรถยนต์เพลิงไหม้
ปิดท้ายเรื่องการปล่อยโคมลอย คนปล่อย "ขอให้หมดทุกข์หมดโศก" แต่หากบ้านไหนได้โคมลอยร่วงลงใส่ เหมือนมีทุกข์มาเยือน

กรณีนี้ เกิดจากโคมลอย ร่วงลงใส่รถยนต์ ที่จอดอยู่ข้างบ้าน ในอำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา สภาพอย่างที่เห็น ไหม้ไปครึ่งคัน ตั้งแต่กระโปรงหน้ารถ ถึงเบาะหน้า โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงเคานต์ดาวน์ เพื่อนบ้านตะโกนบอกว่า รถไฟไหม้ ถึงได้รู้ จึงแจ้งดับเพลิงให้มาช่วย

ผู้เสียหาย เล่าอีกว่า บ้านเธอเป็นร้านขายของ ด้านในเต็มไปด้วยเชื้อเพลิง และยังมีถังก๊าซอยู่ไม่ไกลอีกด้วย แม้จะทำใจแล้วว่าอาจจะจับมือใครดมไม่ได้ แต่ก็หวังลึก ๆ ว่าอยากให้คนทำมายอมรับผิดชอบกับผลที่เกินขึ้น

เบื้องต้น ผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองเชียงคำ เรียบร้อยแล้ว ซึ่งตำรวจรับปากกว่าจะสอบสวนทุกคนในระแวกเดียวกันทั้งหมด เพื่อตามหาคนปล่อยโคมลอยให้ได้

ขอบคุณภาพจาก : Facebook ช่างอ้วน จักราวุธ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง