ป.ป.ช. เชือด “ณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ” รับเงินค่ารักษาพยาบาล ส่งความเห็นให้ อสส. ฟ้องอาญา-จริยธรรมร้ายแรง

ป.ป.ช. เชือด “ณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ” รับเงินค่ารักษาพยาบาล ส่งความเห็นให้ อสส. ฟ้องอาญา-จริยธรรมร้ายแรง

View icon 158
วันที่ 2 ม.ค. 2568 | 15.33 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ป.ป.ช. มีมติ ฟันอาญา-จริยธรรมร้ายแรง “ณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ” สส.ภูมิใจไทย รับเงิน 1.3 ล้าน ค่ารักษาพยาบาล ส่งความเห็นให้ อสส. ฟ้องศาล

วันนี้ (2 ม.ค.68) นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. เปิดเผยว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดคดีสำคัญ กรณีกล่าวหา นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง สส. จังหวัดสงขลา พรรคภูมิใจไทย รับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้จากบุคคลใด เนื่องจากยอมให้บุคคลอื่นชำระค่ารักษาพยาบาลแทนให้แก่ตนเอง

โดยข้อเท็จจริงจากการไต่สวนปรากฏว่า นายณัฏฐ์ชนน ขณะดำรงตำแหน่ง สส. จังหวัดสงขลา พรรคภูมิใจไทย ได้เข้ารับการรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ระหว่างวันที่ 19 - 21 ก.ย.62 และวันที่ 23 ก.ย.- 18 ต.ค. 62 มีค่ารักษาพยาบาลรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,449,223 บาท นายณัฏฐ์ชนน ได้ยอมให้บุคคลอื่นชำระค่ารักษาพยาบาลให้แก่โรงพยาบาลแทนตนเอง รวมเป็นเงินจำนวน 1,335,778 บาท และนำใบเสร็จรับเงินค่ารักษาไปเบิกค่ารักษาพยาบาลจากสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเบิกจ่ายได้เป็นเงิน จำนวน 495,409.50 บาท มีส่วนที่เกินสิทธิไม่สามารถเบิกจ่ายได้เป็นเงินจำนวน 953,813.50 บาท

ต่อมานายณัฏฐ์ชนน ได้เสนอให้แต่งตั้งบุคคลหนึ่งในสามรายที่ชำระค่ารักษาพยาบาลแทนตน เป็นผู้เชี่ยวชาญประจำตัว ตามคำสั่งสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรที่ 2455/2563 ลงวันที่ 1 ต.ค.63 การกระทำของนายณัฏฐ์ชนน จึงเป็นการรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้จากผู้ใด นอกเหนือจากทรัพย์สินหรือประโยชน์อันควรได้ตามกฎหมาย กฎ หรือข้อบังคับที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย

คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วมีมติว่า การกระทำของนายณัฏฐ์ชนน มีมูลความผิดทางอาญา ตามพ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 128 ประกอบมาตรา 169 และมีมูลความผิดฐานฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตามมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินและหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ. 2561 ข้อ 9 ข้อ 10 และข้อ 17 ประกอบข้อ 3 และข้อ 27

ให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสาร พยานหลักฐาน และความเห็นพร้อมสำเนาอิเล็กทรอนิกส์ไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินการฟ้องคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และให้เสนอเรื่องกรณีฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงต่อศาลฎีกาเพื่อวินิจฉัย ตามฐานความผิดดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 76 และมาตรา 87 ประกอบระเบียบที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาว่าด้วยการพิจารณาพิพากษาคดีเกี่ยวกับการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง พ.ศ. 2561 แล้วแต่กรณีต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง