"เอ็ม เอกชาติ" เข้าพบตำรวจไซเบอร์ ปฏิเสธข้อหาชักชวนเล่นพนัน อ้างเป็นเพจเฟซบุ๊กปลอม
วันนี้ (3 ม.ค. 68) นายเอกชาติ มีพร้อม หรือ "เอ็ม เอกชาติ" เข้าพบตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ตามหมายเรียก เพื่อรับทราบข้อหาชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นพนันออนไลน์
โดยนายเอกชาติ ใช้ประตูทางเข้าด้านหลัง เพื่อหลบเลี่ยงสื่อมวลชนจำนวนมากที่มารอทำข่าว โดยเดินทางมาพร้อมทนายความ ก้มหน้าก้มตาไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ กับสื่อมวลชน
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำนายเอกชาตินานกว่า 1 ชั่วโมงครึ่ง ตำรวจก็ได้แจ้งข้อหาและพิมพ์ลายนิ้วมือทำประวัติ ก่อนที่จะปล่อยตัวชั่วคราว เนื่องจากเป็นการมาพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก
จากนั้นนายเอกชาติได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน โดยชี้แจงว่า เพจเฟซบุ๊กที่มีการโพสต์ลิงก์เว็บพนันฯ ตามที่ตำรวจได้แจ้งข้อหานั้น เป็นเพจปลอมทั้งหมด ตนเองมีเพจเฟซบุ๊กจริงเพียงเพจเดียว และยืนยันตัวตน เสียรายเดือนผ่านการ Meta Verify ของเฟซบุ๊กเรียบร้อยแล้ว จะมีเครื่องหมายติ๊กถูกที่ด้านหลังชื่อเพจ
รวมทั้งตนเองยังเคยโพสต์แจ้งเตือนแฟนคลับในเพจ ว่ามีการปลอมเพจเฟซบุ๊กของตนเองขึ้นมานานหลายปีแล้ว ตนเองก็ได้นำหลักฐานทั้งหมดมาให้พนักงานสอบสวน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็จะนำไปตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป แต่มั่นใจในความบริสุทธิ์ของตนเอง ว่าไม่เคยโพสต์ลิงก์เว็บพนัน หรือรับจ้างโพสต์ลิงก์ใดๆ แม้ที่ผ่านมาจะเคยมีคนมาจ้างให้โพสต์ลิงก์เว็บพนัน เพราะตนเองมีชื่อเสียงเคยเป็นนักแข่งรถ แต่ตนเองก็รู้ดีว่าเป็นเรื่องผิดกฎหมาย จึงไม่เคยรับงาน
อย่างไรก็ตามคดีเว็บพนันคดีเก่าที่ตนเองถูก ปปง. ยึดทรัพย์นั้น เพราะตนเองไปอยู่ในบ้านของผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมเท่านั้น ไม่ได้ตกเป็นผู้ต้องหาโดยตรง และไม่ได้เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ใดๆ และได้ชี้แจงทรัพย์สินกับทาง ปปง. ไปเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างขั้นตอนการต่อสู้คดี ซึ่งในเดือนกุมภาพันธ์นี้ก็มีนัดไปขึ้นศาล
ส่วนที่สังคมตั้งข้อสังเกตว่าตนเองร่ำรวยผิดปกตินั้น ยืนยันว่ามาจากการทำงาน ถึงแม้ว่าจะจบเพียงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ก็ตาม ก่อนที่นายเอกชาติจะเดินหนีสื่อมวลชนขึ้นรถกลับทันที
ด้านพลตำรวจตรีชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 เปิดเผยภายหลังร่วมสอบปากคำนายเอกชาติ ว่า จากพยานหลักฐานของตำรวจไซเบอร์ พบเพจที่คาดว่าเป็นของนายเอกชาติจำนวน 3 เพจ โพสต์ลิงก์เว็บพนันรวม 6 ลิงก์มานานหลายปีแล้ว จึงได้แจ้งข้อหา แต่เมื่อเจ้าตัวให้การปฏิเสธและชี้แจงว่าเป็นเพจเฟซบุ๊กปลอม ทางตำรวจไซเบอร์ก็จะไปตรวจสอบทางเทคนิคเพื่อยืนยันข้อเท็จจริงอย่างละเอียดครั้ง
ส่วนการตรวจสอบเส้นทางการเงินว่าเชื่อมโยงกับเว็บพนันหรือไม่นั้น ทางตำรวจไซเบอร์ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ แต่เบื้องต้นพบว่านายเอกชาติจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และประกอบอาชีพทำสวนทุเรียน มีทรัพย์สินกว่า 50 ล้านบาท และได้นัดหมายนายเอกชาติไปส่งฟ้องต่ออัยการในวันที่ 13 มกราคมนี้ พร้อมเตือนกลุ่มอินฟลูเอนเซอร์ที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก และฉวยโอกาสรับโพสต์ลิงก์เว็บพนันแอบแฝง ทางตำรวจไซเบอร์จะไล่ล่ากลุ่มคนเหล่านี้อย่างเต็มที่
สำหรับคดีดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับคดีอินฟลูเอนเซอร์ทำคอนเทนต์รุนแรง 12 คลิป ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ที่กำลังรวบรวมพยานหลักฐาน และมีส่วนที่ตำรวจไซเบอร์ดำเนินการแยกเป็นอีกคดี