สอบเข้ม 6 ชั่วโมง พบข้อมูล นักศึกษาเข้าอบรม 27 คน มีนักศึกษาชาวจีน 13 คน และไม่ใช่นักศึกษา 13 คน ซึ่งเป็นคนนอกถูกเรียกเก็บค่าอบรม 38,000 บาท ส่วน นายหลี่ จาง เป็นคนกลางคอยประสานงานไม่ใช่ผู้จัดอบรม ด้าน ผบก.น. 3 จ่อเสนอ บช.น. ตั้งกรรมการสอบวินัยและอาญาตำรวจทั้ง 2 นาย
จากกรณีที่สื่อโซเชียลออกแฉว่า มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งย่านฝั่งธนบุรีมีการเปิดคอร์สอบรมตำรวจอาสา โดยมีการเก็บค่าอบรม 38,000 บาท และให้ตำรวจมาเป็นวิทยากร ซึ่งผู้ที่เข้าอบรมล้วนแล้วแต่เป็นคนสัญชาติจีน
ความคืบหน้าล่าสุดที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 3 ตั้งแต่เช้ามีสื่อมวลชนมาปักหลักรอตลอดทั้งวัน เนื่องจากมีรายงานข่าวว่าคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้มีการเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องมาทำการสอบปากคำในเวลา 10.00 น.
จนกระทั่งเวลาประมาณ 15.30 น. มีชายชาวจีนจำนวน 3 คนลงมาจากอาคารกองบังคับการตำรวจนครบาล 3 โดยมีคนหนึ่งยืนยันกับผู้สื่อข่าวเป็นภาษาอังกฤษว่า ตนเป็นนักเรียนในโครงการจริง ได้เข้ามาให้การกับตำรวจส่วนรายละเอียดไม่สามารถตอบได้ โดยอีก 2 คนปฏิเสธที่จะตอบคำถามสื่อมวลชน โดยอ้างว่าเป็นเพียงคนขับรถเท่านั้น
ต่อมาเวลาประมาณ 16.00 น. พลตำรวจตรี เกียรติกุล สนธิเณร ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 3 เปิดเผยว่า วันนี้มีการสอบปากคำ 3 ส่วนคือ อาจารย์ชาวจีน ผู้จัดอบรมชาวจีนที่เอาบุคคลภายนอกเข้ามาอบรมและ นักเรียนนักศึกษาที่เข้าอบรม โดยวันนี้เป็นการตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นแล้ว และจะนำผลสอบข้อเท็จจริงไปรายงานให้กับผู้บัญชาการตำรวจนครบาลทราบ
ในส่วนของนักศึกษาและอาจารย์นั้น ให้การว่า การเข้าอบรมในครั้งนี้ มีจำนวน 27 คน เป็นชาวจีน 26 คน คนไทย 1 คน โดยมีชาวจีนจำนวน 13 คน ทุนการศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยสยาม ส่วนอีก 13 คน เป็นคนนอก ที่ถูกเรียกเก็บเงิน แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าเงินที่เก็บมานั้นเอาไปให้กับผู้ใด หรือมีการเรียกเก็บเงินจริงตามที่ทั้ง 13 คนกล่าวอ้างหรือไม่
ส่วนนายหลี่จาง ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายกิจการนานาชาติมหาวิทยาลัยสยาม จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานของมหาวิทยาลัย ไม่ใช่ผู้จัดอบรม แต่มีผู้จัดอีกคนที่เป็นชาวจีนเหมือนกัน ซึ่งก็มีส่วนเกี่ยวข้องกันโดยให้สมาชิกแจ้งข่าวเพื่อให้ชาวจีนช่วยเหลือคนจีนที่ทำการค้าในไทย โดยเรื่องนี้ทางคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงยังไม่ได้มีการสอบถามมหาลัยว่าทราบเรื่องดังกล่าวหรือไม่
ส่วนตำรวจ 2 นายที่เข้าเกี่ยวข้องนั้น จากการสอบเบื้องต้น ทราบว่า ผู้จัดอบรมที่เป็นคนจีนรู้จักกับรองผู้กำกับสืบสวนนครบาล 3 จึงได้เชิญไปเป็นวิทยากร และทางเราผู้กำกับก็ได้มีการขออนุญาตผู้กำกับสืบสวนนครบาล 3 เท่านั้น ยังไม่มีหนังสือมาถึงระดับผู้บังคับการ ซึ่งจะมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงทุกมิติอีกครั้งว่านายตำรวจทั้งสองคนมีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้นอกเหนือจากการเป็นวิทยากรหรือไม่ ถ้าหากมีมูลก็จะพิจารณาให้กองบัญชาการตำรวจนครบาลตั้งกรรมการสอบวินัยและอาญา
อย่างไรก็ตาม พลตำรวจโทสยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลได้มีการเซ็นคำสั่งให้ตำรวจทั้ง 2 นายย้ายเข้าไปปฏิบัติงานที่ศูนย์ปฏิบัติการกองบัญชาการตำรวจนครบาลระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริง
