วัดดังปลดพนักงานประจำศาลาสวดศพ ไม่แจ้งล่วงหน้า แถมถูกหักครึ่งหนึ่งของเงินค่าจ้าง

วัดดังปลดพนักงานประจำศาลาสวดศพ ไม่แจ้งล่วงหน้า แถมถูกหักครึ่งหนึ่งของเงินค่าจ้าง ร้องสำนักพุทธช่วยเหลือ เพราะตกงานขาดรายได้เลี้ยงดูครอบครัว จึงมาร้องขอความเป็นธรรม

วันที่ 3 ม.ค. 68 นายอธิวัฒน์ สิริกังวาลวงศ์ ผู้ด่อตั้งเพจกล้าที่จะก้าว ได้รับเรื่องร้องเรียนจาก น.ส.พริสร อายุ 59 ปี  นางกรองแก้ว อายุ 58 ปี นางบุญมา อายุ 55 ปี น.ส.รสสุคนธ์ อายุ 45 ปี และนางบุญรวย อายุ 42 ปี ผู้ช่วยงานประจำศาลาสุคติสถาน วัดแห่งหนึ่งใน อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ว่าได้มีหนังสือคำสั่ง จากทางวัดดังกล่าว ให้บุคคลดังกล่าวหยุดปฏิบัติหน้าที่บริการประจำศาลาสุคติสถาน ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 68 เนื่องจากบุคคลดังกล่าว ไม่ยอมเข้าสู่ระบบเจ้าหน้าที่วัด โดยหนังสือดังกล่าวลงวันที่ 23 ธ.ค. 67 ซึ่งผู้ร้องยืนยันว่า ไม่มีการแจ้งจากทางเจ้าหน้าที่วัดว่าให้ทั้ง 5 คนเข้าสู่ระบบมาก่อน แต่กลับมีหนังสือให้หยุดปฏิบัติหน้าที่โดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้า ทำให้ต้องตกงานขาดรายได้เลี้ยงดูครอบครัวจึงมาร้องขอความเป็นธรรม

โดยทางเพจได้รับเรื่องพร้อมประสาน นายชีวิน อภิบาลบุญชัย ผอ.สำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดนนทบุรี ดร.จวน คงแก้ว ไวยาวัจกร ฝ่ายเลขานุการวัด นายถวิล บุญเรืองขาว ไวยาวัจกร ฝ่ายกฎหมายและทรัพย์สิน และนางกาญจนา วรธรรม หัวหน้าฝ่ายสุคติสถานวัดดังกล่าวเข้าชี้แจงข้อเท็จจริง

น.ส.พริสร อายุ 59 ปี ตัวแทน ผู้ช่วยงานบริการประจำศาลาสุคติสถาน กล่าวว่า พวกตนบางคนทำงานที่วัดมานาน 10-20 ปี ทำมาตั้งแต่ดังเดิม โดยจะได้ค่าจ้างวันละ 200 บาท เป็นค่าทำความสะอาดศาลา เสริฟน้ำ และงานอื่นในพิธีสวดอภิธรรมศพ แต่เมื่อปี 62 ทางวัดได้แจ้งหักค่าแรง 100 บาท จากพวกตน เพื่อเข้ากองกลางวัด โดยพวกตนไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่วัด เพราะถือว่าทำมาตั้งแต่ดั้งเดิม จนกระทั่งเมื่อวันที่ 23 ธ.ค.67 หัวหน้าฝ่ายสุคติสถานได้ส่งหนังสือมาให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 68 เป็นต้นไป โดยอ้างว่าได้แจ้งพวกตนแล้ว ว่าให้สมัครเข้าสู่ระบบของทางวัด แต่พวกตนไม่เคยได้รับแจ้งเป็นเอกสารมาเลย มีแต่พูดมาว่าจะให้เข้าระบบ ซึ่งตนเห็นว่าการแจ้งแบบกระชัดชิดแบบนี้ไม่ได้รู้ตัวมันไม่เป็นธรรม และอ้างว่าพวกตนไม่ได้เข้าระบบ แต่หักเงินตน 100 บาทไปเข้าระบบสวัสดิการ ตนขอเรียกร้องเงินที่หักพวกตนไป 100 บาทตั้งแต่ปี 62 คืนเพราะพวกตนไม่เคยได้รับสวัสดิการอะไรเลย

ดร.จวน คงแก้ว ไวยาวัจกร ฝ่ายเลขานุการวัด กล่าวว่า หนังสือดังกล่าว เป็นคำสั่งจากทางวัดจริง หลังจากได้มีมติที่ประชุม เรื่องให้บุคคลทั้ง 5 หยุดปฏิบัติหน้าที่ หลังจากไม่ยอมเข้าสู่ระบบเจ้าหน้าที่วัด ซึ่งจะมีการจ่ายเงินตามค่าแรงที่สมควรจะได้รับ โดยทางวัดได้มีการแจ้งบุคคลทั้ง 5 ให้ยื่นเอกสารสมัครงาน เพื่อจะได้เป็นเจ้าหน้าที่วัดที่ถูกต้อง เพราะเนื่องจากปัจจุบันบุคคลทั้ง 5 เป็นคนนอกที่เข้ามาช่วยงานในวัดเพื่อบริการตามศาลาสุคติสถาน ทำให้มีข้อร้องเรียนจากทางเจ้าภาพว่า ต้องมีการจ่ายเงินซ้ำซ้อนกับที่จ่ายค่าทำศพให้กับทางวัด นอกจากนี้บางเจ้าภาพไม่ต้องการคนบริการ เนื่องจากเตรียมบุคคลในครอบครัวมารีบแขกและบริการเอง จึงเกิดความซ้ำซ้อนสิ้นเปลือง ทางวัดจึงได้ประชุมหารือเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวให้กับทางเจ้าภาพ ส่วนข้อเรียกร้องที่ 2 เรื่องเงินค่าจ้างที่ผู้ช่วยได้รับจากทางเจ้าภาพเป็นค่าบริการวันละ 200 บาท และถูกทางวัดหักไป 100 บาท เนื่องจากหักไว้เป็นสวัสดิการให้กับเจ้าหน้าที่วัด ซึ่งเรื่องนี้ที่ผู้ช่วยเรียกร้องขอเงินคืนขอนำเรื่องเข้าที่ประชุมวัดก่อน และจะแจ้งผลให้ทราบอีกครั้งภายในวันที่ 7 ม.ค. 68

นายชีวิน อภิบาลบุญชัย ผอ.สำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดนนทบุรี  กล่าวว่า วันนี้เข้ามาพูดคุยไกล่เกลี่ยระหว่างผู้ช่วยเจ้าหน้าที่ที่ส่งเรื่องร้องเรียนไป เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายเข้าใจกัน เรื่องแรกการให้หยุดปฏิบัติหน้าที่โดยไม่แจ้งล่วงหน้า เพราะไม่เข้าระบบเจ้าหน้าที่วัด หลังจากพูดคุยแล้วทางพบว่า ทางวัดได้จ้างเจ้าหน้าที่มาใหม่แล้ว 4 คน ส่วบุคคลทั้ง 5 ท่าน ก็ไม่ประสงค์จะทำงานที่ศาลาสวดอภิธรรมต่อ จึงยุติไป ส่วนเรื่องที่ 2 เป็นเรื่องเงินที่หักไป 100 บาท จากบุคคลทั้ง 5 ที่ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่วัด ตนได้ขอให้ทางกรรมการวัดทบทวน ให้ทางคณะกรรมการวัดใก้ความเห็นใจต่อทั้ง 5 คน ถือว่าเป็นการช่วยเหลือกันไป เพราะหลังจากนี้ก็ไม่ได้ทำงานที่วัดแล้ว