ป้ากลับมาบ้านหลังไปฉลองปีใหม่สุดตกใจ เจอสุนัขจรจัดติดซอกกำแพงบ้าน คาดตกใจพลุคืนเคาท์ดาวน์วิ่งมาติดซอกกำแพง นาน 3 วัน ตัดสินใจยอมให้เจ้าหน้าที่ทุบกำแพงช่วยสุนัข
วันนี้ (5 ม.ค.68) เจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลนครตรัง ได้รับแจ้งเหตุพบสุนัขตัวหนึ่งติดอยู่ในซอกกำแพงบ้านหลังหนึ่งใน ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง ซึ่งคาดว่าติดมาหลายวันแล้วและไม่สามารถออกมาได้ จึงนำกำลังกว่า 6 นาย เข้าตรวจสอบเมื่อวานนี้ (4 ม.ค.68)
ณ บ้านหลังดังกล่าวพบสุนัข เพศผู้ สีน้ำตาล-ขาว ติดอยู่ในซอกกำแพงนอกบ้าน ซึ่งซอกมีสภาพเล็กมากจนสุนัขไม่สามารถขยับตัวได้และไม่ส่งเสียงร้อง ทางเจ้าหน้าที่พยายามใช้บ่วงคล้องตัวสุนัขขึ้นมาแต่ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากซอกมีความเล็กและมีเศษปูนเป็นจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องทุบกำแพง โดยเจ้าของบ้านก็ยินดีให้ทุบกำแพงเพื่อช่วยเหลือสุนัข จึงประสานชาวบ้านที่มีเครื่องมือหินเจียรมาตัดอิฐบล็อกรวมทั้งสกัดและทุบกำแพง จนกำแพงมีช่องทะลุไปจนถึงตัวสุนัข ก่อนจะใช้เชือกดึงสุนัขออกมา โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ก็สามารถช่วยสุนัขออกมาได้
เมื่อสุนัขออกมาได้ก็ล้มตัวนอนลงทันที เพราะมีสภาพอิดโรยและท้องแห้งชัดเจน รวมทั้งมีบาดแผลถลอกจากการเสียดสีเข้ากับผนังกำแพง หลังจากเจ้าหน้าที่ปลดเชือกที่ดึงสุนัขออกมา สุนัขก็พยายามลุกขึ้นก่อนเดินเซล้มลุกคลุกคลานและวิ่งหนีออกจากบ้านไปในทันที ท่ามกลางความดีใจของเจ้าของบ้าน เจ้าหน้าที่ และพลเมืองดีที่มาช่วยเหลือ
ทาง นางเสงี่ยม อายุ 60 ปี เจ้าของบ้าน เล่าว่า ช่วงคืนวันที่ 31 ธันวาคม 2567 หรือคืนเคาท์ดาวน์ทั้งครอบครัวเดินทางไปต่างจังหวัด โดยไม่มีใครอยู่ที่บ้าน จนเมื่อคืนวันที่ 3 มกราคม 2568 ตนได้ยินเสียงสุนัขร้องอยู่ใกล้บ้าน จึงออกไปดู ก่อนจะพบสุนัขตัวดังกล่าวติดอยู่ในซอกกำแพง จึงพยายามช่วยสุนัขแต่ก็ไม่สำเร็จ จึงประสานเจ้าหน้าที่ให้เข้ามาช่วยเหลือดังกล่าว ตนยินดีให้ทุบกำแพงเพื่อช่วยเหลือสุนัข เพราะเขาก็มีชีวิตเหมือนกัน ตนดีใจมากที่ช่วยเหลือสุนัขออกมาได้ ทั้งนี้สุนัขตัวดังกล่าวเป็นสุนัขจรจัดเคยเห็นเดินผ่านบ้านอยู่หลายครั้ง ตนคิดว่าน่าจะตกใจเสียงพลุฉลองปีใหม่ในคืนเคาท์ดาวน์ และได้วิ่งหนีเข้ามาหลบภายในซอกกำแพงจนไม่สามารถออกมาได้ดังกล่าว
