หลายรัฐของสหรัฐฯ ประกาศภาวะฉุกเฉินสภาพอากาศหนาวจัด หลังมีพายุหิมะพัดถล่ม กระทบประชาชนกว่า 60 ล้านคนทั่วประเทศ ขณะเดียวกัน ยังมีรายงานหิมะถล่ม
มีการเผยภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในรัฐยูทาห์ ของสหรัฐฯ หลังมีหิมะตกลงมาอย่างหนัก โดยมีปริมาณหิมะตกมากถึงชั่วโมงละ 12.7 เซนติเมตร บริเวณรอบเขตลิตเติล คอต-ตอนวูด แคนยอน (Little Cottonwood Canyon) ทำให้เกิดหิมะถล่มลงมาจากภูเขา เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยหิมะไหลลงลงมาอย่างรวดเร็ว จนถึงรถยนต์ที่กำลังจอดถ่ายคลิปวิดีโออยู่ นอกจากนี้ ยังทำให้นักสกีบางส่วนติดค้างอยู่ในพื้นที่ด้วย
ขณะที่ 30 รัฐทั่วประเทศ มีการประกาศเตือนภัยพายุหิมะ ส่งผลกระทบประชาชนกว่า 60 ล้านคน ทางตอนกลางและทางตะวันออกของประเทศ คาดว่า พายุจะเคลื่อนตัวผ่านพื้นที่ทั่วประเทศไปทางตะวันออก ซึ่งหลายรัฐ อาทิ เคนทักกี, เวอร์จิเนีย, แคนซัส, อาร์คันซอ และมิสซูรี มีการประกาศภาวะฉุกเฉินแล้ว เนื่องจากสภาพอากาศหนาวจัดจนอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต
ขณะเดียวกัน มีรายงานเที่ยวบินล่าช้ามากกว่า 3,300 เที่ยว และอีกกว่า 1,700 เที่ยว ถูกยกเลิก โดยที่สนามบินในรัฐมิสซูรี ได้รับผลกระทบหนักสุด ส่วนบริการรถไฟเอ็มแทร็ก (Amtrak) ประกาศยกเลิกการเดินรถไฟในหลายพื้นที่ทั่วประเทศเช่นกัน นอกจากนี้ โรงเรียนต่าง ๆ ก็ปิดการเรียนการสอนชั่วคราวด้วย
ทั้งนี้ คาดว่าอุณหภูมิในวันจันทร์ และอังคารนี้ จะลดลงที่ 6-12 องศาเซลเซียส ซึ่งสภาพอากาศหนาวจัดระลอกนี้ อาจเป็นเดือนมกราคมที่หนาวที่สุดของสหรัฐฯ ในรอบ 14 ปีด้วย
ข้ามฝั่งไปที่สหราชอาณาจักร ก็กำลังเผชิญกับสภาพอากาศหนาวเย็นเช่นกัน โดยทางการออกคำเตือนสภาพอากาศทั่วภูมิภาค บ้านเรือนกว่า 12,000 หลัง ทางตอนเหนือของอังกฤษไม่มีไฟฟ้าใช้ ท่ามกลางอุณหภูมิที่เย็นยะเยือก นอกจากนี้ ยังมีพายุลูกเห็บ หิมะตกหนัก และการละลายของหิมะอาจทำให้เกิดน้ำท่วมในบางพื้นที่
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาเตือนด้วยว่า หิมะอาจกลายเป็นละอองฝนโปรยลงมาในมิดแลนด์ ทางตอนเหนือของอังกฤษ และเวลส์ ซึ่งอาจทำให้ละอองฝนตกลงมาบนผิวถนนและแข็งตัวทันที ส่งผลให้พื้นถนนลื่นและอันตรายอย่างยิ่ง
ส่วนพื้นที่ทางตอนใต้ของไอร์แลนด์กลายสภาพเป็นเมืองอันขาวโพลน หลังจากหิมะตกหนักในช่วงตลอดทั้งวันและคืนด้วย โดยเฉพาะที่เมืองคาเชล (Cashel) ซึ่งห่างจากกรุงดับลิน เมืองหลวงไปทางตะวันตกเฉียงใต้ราว 140 กิโลเมตร
ขอบคุณภาพจาก : Utah Department of Transportation
