เร่งตามตัวชาวไต้หวัน จัดโครงการตำรวจอาสา

ห้องข่าวภาคเที่ยง - เรื่องการตรวจสอบ โครงการตำรวจอาสา มีความชัดเจนขึ้นมาอีกนิด หลังมีคำสั่งย้าย 2 นายตำรวจไปปฏิบัติหน้าที่ ที่ศูนย์ปฏิบัติการกองบัญชาการตำรวจนครบาล ตอนนี้ตำรวจรู้แล้วว่า ใครกันแน่เป็นคนประสานจัดงานนี้ขึ้นมา ตอนนี้กำลังติดตามตัวมาสอบสวนกันอยู่

เร่งตามตัวชาวไต้หวัน จัดโครงการตำรวจอาสา
ทีมข่าว 7HD ได้ข้อมูลจากแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ สรุปได้ว่าโครงการนี้จัดขึ้นโดยทางมหาวิทยาลัย ไม่ใช่มาจากตำรวจ โดยมีการทำหนังสือส่งมาขอความอนุเคราะห์อย่างถูกต้อง มีเลขรับส่งหนังสือชัดเจน

เหตุที่มีการอนุมัติให้ "รองผู้กำกับการ" ไปร่วมในงานนี้ มีการให้เหตุผลว่า เพราะเป็นงานของมหาวิทยาลัย เกี่ยวข้องกับการให้ความรู้นักศึกษา ได้เข้าใจกฎหมายไทย ทั้งคดีอาญา คดีจราจร ยาเสพติด และความผิดอื่น ๆ และเป็นการขอให้ไปเป็นที่ปรึกษา ไม่ใช่วิทยากร

มีข้อมูลชี้แจงของ "ผู้กำกับการสืบสวน" ว่าไม่ได้เป็นวิทยากร ไม่ได้รับเงิน ได้รับเพียงแค่แก้วที่ระลึก 1 ใบ ส่วนที่มีภาพถ่ายกับคนในงาน เป็นเพียงการแวะไปเยี่ยมชมการอบรมที่มีการประสานขอความร่วมมือมา ว่าเป็นไปด้วยความเรียบร้อยดีหรือไม่ มีการขอถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึก ใช้เวลาไม่นานก็เดินทางกลับ

ส่วนลายเซ็นที่ไปปรากฎในประกาศณนียบัตร และบัตรประจำตัวของผู้ที่เข้ารับการอบรม มาทราบภายหลังว่า เป็นการสแกนจากเอกสารเซ็น ที่อนุญาตให้ "รองผู้กำกับการ" ไปร่วมงานนี้

ส่วนเรื่องการดำเนินคดี ตอนนี้ ตำรวจสอบสวนกลาง ออกเอกสารข่าวยืนยันว่าจะดำเนินคดีกับบุคคลที่เอาตราสัญลักษณ์ของหน่วยงาน ไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต และได้มีการแจ้งความไว้กับตำรวจ สน.ภาษีเจริญ แล้ว และตอนนี้ตำรวจก็พอจะรู้ตัวคนที่เป็นผู้ประสานงานตัวจริง เป็นผู้จัดการอบรมครั้งนี้ให้เกิดขึ้น ว่าเป็น "ชาวไต้หวัน"

นอกจากนี้ ยังมีการประสานงานกับทางตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ให้ช่วยตรวจสอบข้อมูลผู้เข้าร่วมการอบรมทุกคน ซึ่งตอนนี้ได้ข้อมูลมาในระดับหนึ่งแล้ว เหลือตรวจสอบประเด็นที่เหลือ เช่นว่า จุดประสงค์ที่แท้จริงหลังการอบรม จะนำบัตรที่ได้ไปใช้ทำอะไร หากพบว่าถูกนำไปใช้แอบอ้าง หรือกระทำผิดก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย

ขีดเส้นตาย บ่ายนี้ ม.สยาม ต้องชี้แจง
ขีดเส้นตาย ภายในวันนี้ ม.สยาม ต้องส่งรายงานมายังกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม หรือ อว.

ทีมข่าวสอบถามไปยังศาสตราจารย์ศุภชัย ปทุมนากุล ปลัดกระทรวง อว. ระบุว่า บ่ายวันนี้ จะเร่งติดตามความคืบหน้ากับอธิการบดี ม.สยาม ภายหลังจากที่ได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงขึ้นมาแล้ว กรณี การจัดอบรมนักศึกษาชาวจีน เพื่อเป็นอาสาสมัครตำรวจ

เบื้องต้น ปลัดได้คุยกับอธิการบดี คร่าว ๆ เนื่องจากช่วงจัดอบรมอธิการบดีไปต่างประเทศ จึงไม่ทราบเรื่องว่ามีการจัดอบรมดังกล่าวภายในมหาวิทยาลัย จึงไม่ทราบว่าใครเป็นคนอนุญาต แต่ที่แน่ ๆ เอกสารที่เผยแพร่ออกไป มีหัวโลโก้ของมหาวิทยาลัย เป็นเอกสารที่ไม่ได้ออกโดยมหาวิทยาลัยแน่นอน เนื่องจากไม่มีเลขที่หนังสือ

เหตุการณ์ลักษณะนี้ เพิ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในมหาวิทยาลัยของไทย จึงต้องสอบสวน หาข้อมูลให้ละเอียดว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องบ้าง ซึ่งหากมีมูลความผิดจริง จะเข้าข่ายความผิดตาม พระราชบัญญัติสถาบันอุดมศึกษาเอกชน