สนามข่าว 7 สี - จากเรื่อง "เดอะ มูนบาร์" ตอนนี้ลุกลามไปจังหวัดอื่น ๆ ด้วย หลังพบว่ามีสถานบันเทิงบางจังหวัด ถ่ายบัตรประชาชนไว้เหมือนกัน แถมบางร้านถึงขั้นเสียบบัตรสแกนข้อมูล ก่อนเข้าใช้บริการด้วย ส่วนเรื่องการแจ้งความ ตอนนี้ตัวเลขทะลุ 220 คน
ตร.ไซเบอร์ ลุยสอบ "The Moon Bar"
ตอนแรกข่าวว่ามีผู้เสียหาย 174 คน ว่าเยอะแล้ว เช็กไปเมื่อช่วงเย็นทะลุ 220 คน หนึ่งในผู้เสียหายรายล่าสุด เป็นคุณป้าอายุ 60 ปี บอกว่า เห็นข่าวแล้วก็ตกใจ ตัวเองเคยไปกินข้าวที่นี่มา 2 ครั้ง เห็นมีการถ่ายบัตรประชาชน และรูปหน้าตรง ตอนแรกไม่คิดอะไร แต่ตอนนี้คิดแล้วไม่สบายใจเลยมาแจ้งความ
ทางตำรวจ สภ.บางใหญ่ บอกเดี๋ยวถ้ารวบรวมข้อมูลได้ประมาณหนึ่งแล้ว จะส่งให้ตำรวจไซเบอร์ รับไปตรวจสอบต่อ ซึ่งเมื่อวาน ทางผู้บัญชาการตำรวจไซเบอร์ ก็ออกมารับเรื่องของหนึ่งในผู้เสียหาย ที่น่าจะเป็นต้นเรื่อง พร้อมกับบอกว่า ยินดีจะตรวจสอบให้ ถามว่ากรณีการถ่ายบัตรประชาชนอย่างเดียว เอาไปทำแบบนี้ได้หรือเปล่า ท่านไม่ได้ตอบตรง ๆ
แต่บอกเป็นนัย ๆ ว่าต้องไปดูว่ามีการเอาไปทำอย่างอื่นเพิ่มด้วยหรือไม่ ส่วนเรื่องที่กังวลว่าจะมีแบ็กดีอยู่เบื้องหลัง อันนี้หายห่วง ถ้าพบว่าผิดก็จะดำเนินคดีไปตามกฎหมาย
ส่วนผู้เสียหายที่เป็นต้นเรื่องของงานนี้ ก็บอกว่า เรื่องนี้ต้องแยกกับเรื่องคดีที่ถูกทำร้ายร่างกาย หรือถูกเอาไปโพสต์ประจาน ที่มาร้องให้ตำรวจไซเบอร์ตรวจสอบ ก็เพราะรู้สึกผิดสังเกตตรงที่พอไปเที่ยว ถูกถ่ายบัตรประชาชน แล้ววันรุ่งขึ้นก็จะมีการส่งข้อความมาชักชวนเล่นพนันออนไลน์ เลยอดสงสัยไม่ได้ว่าจะเกี่ยวกันไหม
ก.ดิจิทัลฯ สั่งตรวจสอบข้อมูลย้อนหลัง
ขณะที่เรื่องนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ออกมาเตือนการกระทำดังกล่าว ถือเป็นเรื่องผิดกฎหมายตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือ PDPA และมีโทษปรับสูง หลังปรากฏเป็นข่าวได้สั่งการให้รักษาการเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ไปตรวจสอบ และจะตรวจสอบย้อนหลังไปว่าสถานบันเทิงดังกล่าว ได้ข้อมูลส่วนบุคคลไปมากน้อยขนาดไหน พร้อมแนะนำประชาชนที่เคยไปร้านดังกล่าว ให้ไปแจ้งความไว้ก่อน แม้ว่าขณะนี้ยังไม่เกิดความเสียหาย เพราะความเสียหายอาจมาในภายหลังได้
กรณีที่คุณประเสริฐฯ บอกว่าเคยมีการปรับ 7 ล้าน คือ กรณีการปรับเงินบริษัทเอกชนรายใหญ่ของประเทศที่ขายสินค้าออนไลน์ แต่ปล่อยให้ข้อมูลลูกค้ากว่า 100,000 ราย รั่วไหลไปยังแก๊งคอลเซ็นเตอร์โดยไม่มีการควบคุมตามกฎหมาย และไม่มีการแต่งตั้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO) และไม่แจ้งเหตุละเมิดให้กับหน่วยงานรัฐ แถมเยียวยาแก้ปัญหาเองไม่ได้ เหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว
