ตำรวจ สภ.บางศรีเมือง รวบพ่อหนุ่มอารมณ์ศิลปะ ขี่รถผ่านกำแพง เกิดนึกถึงสมัยเรียนเมื่อ 10 ปีที่ก่อน เลยจอดพ่นสีสเปรย์สร้างงานกราฟฟิตี สุดท้ายต้องตามลบ-ชดใช้ จ.นนทบุรี
เมื่อวันที่ 6 ม.ค. 68 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางศรีเมือง จ.นนทบุรี ได้เชิญตัวนายแบงค์ อายุ 33 ปี อาชีพค้าขาย มาสอบสวนที่ห้องสืบสวน หลังพบว่าเขาคือผู้ก่อเหตุพ่นสีสเปรย์กราฟฟิตีใส่กำแพงโกดังสินค้าขายส่ง ตั้งอยู่บริเวณใกล้เคียงสะพานพระนั่งเกล้า ต.ไทรม้า อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี แล้วขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี เหตุเกิด เมื่อวันที่ 29 ม.ค. 67 เวลาประมาณ 17.52 น. ที่ผ่านมา
โดยนายแบงค์ กล่าวว่า วันที่เกิดเหตุตนได้ขับขี่รถไปเที่ยวหารุ่นพี่ย่านสวนจัตุจักร โดยขากลับตนได้ขี่รรถผ่านร้านสีสเปรย์ จึงได้ซื้อสีดำมา 1 กระป๋อง จากนั้นได้ผ่านบริเวณสะพานพระนั่งเกล้าเห็นกำแพงเมทัลชีทหน้าบริษัทโกดังขายส่งแห่งหนึ่ง จึงเผลอคิดขึ้นมาในหัว เนื่องจากเกิดอารมณ์ทางศิลปะ เพราะตนได้เรียนจบมาด้านศิลปะการออกแบบวาดภาพมาอยู่แล้ว ประกอบกับมีสีสเปรย์อยู่ที่ตัว จึงจอดรถและลงไปพ่นสีสเปรย์วลงบนกำแพง โดยวาดเป็นตัวหนังสือลายเซ็นของตนเป็นภาษาอังกฤษ DMRP ใช้เวลาประมาณไม่เกิน 15 นาที ในการวาด จากนั้นก็ได้ขี่รถออกจากหน้าโกดังเพื่อกลับบ้านตามปกติ
นายแบงค์ กล่าวต่อว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ตนยอมรับว่าเป็นคนก่อเหตุจริง โดยเมื่อก่อนย้อนไปประมาณ 10 ปีที่แล้วสมัยยังเรียนอยู่ ตนยอมรับว่าตระเวนพ่นสีสร้างงานกราฟฟิตีตามกำแพงมาโดยตลอดไม่เลือกที่ เห็นตรงไหนก็พ่น แต่หลังจากช่วงอายุวัย ประกอบกับมีลูก และครอบครัวแล้ว จึงเลิกทำลักษณะนี้มาประมาณ 10 ปีแล้ว เพิ่งจะมาทำอีกคือครั้งนี้ จึงอยากฝากขอโทษทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าของโกดัง และนักพ่นสีกราฟฟิตีที่ทำให้เสียเวลาและเสื่อมเสียชื่อเสียงของวงการ หลังจากนี้จะไม่ทำแบบนี้อีก โดยวันนี้ตนก็ได้พูดคุยกับทางผู้เสียหาย พร้อมยินดีชดใช้ค่าเสียหาย โดยการซื้อเมทัลชีทยี่ห้อเดิมให้ใหม่ ประมาณ 15 แผ่น ตามกำแพงที่ตนพ่นสีไป มาเปลี่ยนใหม่ให้กับผู้เสียหาย ส่วนในวันนี้ตนจะรับผิดชอบโดยการนำสีสเปรย์ที่เป็นสีเดียวกับกำแพงมาพ่นลบให้ในเบื้องต้นก่อน
นายกมล อายุ 43 ปี ตัวแทนบริษัทฯ เล่าว่า ย้อนไปเมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 67 ซึ่งเป็นวันที่ทางบริษัททำงานเป็นวันสุดท้ายของปี ตนและพนักงานทุกคนได้กลับบ้านแยกย้ายไปหมด จนกระทั่งเมื่อวันที่ 3 ม.ค. 68 ที่ผ่านมา ตนและพนักงานได้กลับมาทำงานตามปกติ ปรากกฏว่ากำแพงหน้าบริษัทถูกพ่นสีด้วยสเปรย์ จึงย้อนกลับไปดูกล้องวงจรปิดก็พบว่าเป็นฝีมือของนายแบงค์ จึงเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดี และยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ซึ่งวันนี้ทางตนและเจ้าของบริษัทต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.บางศรีเมือง ที่ทำงานอย่างรวดเร็ว สามารถเชิญตัวผู้ก่อเหตุมาพูดคุยเจรจากับตนในเบื้องต้น ตอนนี้ทางด้านคดีก็ต้องรอให้ทางผู้ก่อเหตุนั้นชดใช้สิ่งที่กระทำให้เสร็จสิ้นก่อน ถึงจะมีการตกลงยอมความกันตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
พ.ต.ท.เศรษฐหาญ กล่าวว่า วันนี้ทางตำรวจได้ทำการเชิญทั้ง 2 ฝ่าย เข้ามาพูดคุยเจรจาในเบื้องต้น เนื่องจากคดีดังกล่าวเป็นคดีอาญา ในข้อกล่าวหาทำให้เสียทรัพย์ ซึ่งคดีนี้หากผู้เสียหายและผู้ก่อเหตุมีการพูดคุยเจรจากันได้ก็สามารถยอมความกันได้ ส่วนในวันนี้เป็นการเจรจาในเบื้องต้น ทางด้านคดีความก็ยังดำเนินการต่อไป หากผู้ก่อเหตุได้ทำการชดใช้เยียวยาจนอันเป็นที่พอใจของผู้เสียหายแล้ว ทางตำรวจจะเชิญตัว ทั้งสองฝ่ายเข้ามาอีกครั้งเพื่อทำข้อตกลง
อยากฝากเรื่องนี้ให้เป็นอุทาหรณ์ และเป็นคดีตัวอย่าง สำหรับผู้ที่คิดจะกระทำความผิดในลักษณะนี้ ให้หยุดและเลิกสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่น ละเมิดกฎหมาย รวมถึงอาจจะเป็นต้นเหตุของการทะเลาะวิวาทอย่างรุนแรงก็เป็นได้