สนามข่าว 7 สี - ใกล้คลอดแล้ว เงินหมื่นบาท ทั้งเฟส 2 และเฟส 3 ที่หลายคนตั้งหน้าตั้งตารอ ที่แน่ ๆ ไม่เกินเดือนมีนาคม นี้
แนะผู้สูงอายุผูกพร้อมเพย์ ก่อนรับเงินหมื่นบาท เฟส 2
สำหรับโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ เงินช่วยเหลือ 10,000 บาท เฟส 2 ที่ขณะนี้รัฐบาลเชิญชวนประชาชน ที่มีคุณสมบัติได้รับเงินได้ในเฟสนี้ คือ เคยลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน "ทางรัฐ" สำเร็จ มีสัญชาติไทย และมีอายุตั้งแต่ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ 15 กันยายน 2567 (เกิดก่อนหรือในวันที่ 16 กันยายน 2507) ไม่เป็นผู้มีเงินได้เกิน 840,000 บาท สำหรับปีภาษี 2566 และไม่มีเงินฝากรวมกันเกิน 500,000 บาท ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567 ที่สำคัญ ยังไม่เคยได้เงิน 10,000 บาท ในเฟสแรก หรือผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ ให้ไปผูกพร้อมเพย์กับบัญชีธนาคาร เตรียมตัวรอไว้ หลังรัฐบาลบอกจ่ายแน่ คาดว่า จะเป็นช่วงวันตรุษจีนนี้
ระบบดิจิทัลวอลเล็ต คาดแล้วเสร็จ มี.ค.
ขณะที่เงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ในเฟสที่ 3 ก็คือ สำหรับบุคคลทั่วไปที่เคยลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน "ทางรัฐ" สำเร็จ กลุ่มนี้ที่ยังคงรอต่อไปอีก เฟสนี้ขอย้ำว่า จะได้เป็นเงินดิจิทัล จะไม่ได้เป็นเงินสดเหมือนกับ 2 เฟสก่อนหน้านี้ แน่นอนว่า พอเป็นเงินดิจิทัล ก็จะต้องมีเรื่องของระบบเข้ามาเกี่ยวข้อง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ออกมาเปิดเผยว่า ขณะนี้ได้บริษัทฯ ที่จะเข้ามาดำเนินการจัดทำระบบแล้ว หากนับออกไปจากวันนี้ รวมระยะเวลาการทดลองระบบด้วย คาดว่า ไม่เกินเดือนมีนาคม ระบบเสร็จสมบูรณ์ โดยยืนยันว่า เรื่องของเงินดิจิทัลวอลเล็ต จบที่เฟส 3 จะไม่มีเฟส 4 แล้ว
อีกเรื่อง คือ การพนันออนไลน์ ที่ก่อนหน้านี้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ไปขึ้นเวทีช่วยผู้สมัครนายก อบจ. เชียงรายหาเสียงว่า จะต้องนำเรื่องพนันออนไลน์ขึ้นมาอยู่บนดิน เพราะหากนำขึ้นมาทำให้ถูกกฎหมาย ก็จะเรียกเก็บภาษีได้ แน่นอนว่า ถ้านายทักษิณพูดอะไร ต้องฟัง เพราะเดี๋ยวจะมีคนฝั่งรัฐบาลออกมารับลูกอยู่เสมอ ๆ
เร่งศึกษาแก้กฎหมายพนันออนไลน์
เมื่อนักข่าวไปถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงฯ ดีอี ท่านก็ยอมรับว่า เรื่องนี้ หากนำขึ้นมาอยู่บนดินได้ ก็จะทำให้กฎหมายเข้าถึงได้ และเป็นการป้องกันหลาย ๆ เรื่อง เพราะเรื่องพนันออนไลน์ ก็จะไปเชื่อมโยงกับบัญชีม้า ข้อมูลส่วนบุคคล และแก๊งคอลเซนเตอร์ และยังจะส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจ เพราะจะมีเรื่องของการเก็บภาษีเข้ามา เพราะฉะนั้นหากจะดำเนินการเรื่องนี้ ก็ต้องมีการแก้ไขกฎหมาย แน่นอนว่า รัฐบาลกำลังศึกษาเรื่องนี้อยู่ และจะทำให้เร็วที่สุด
