อดีตคนรัก เมาสุราอาละวาด ขู่จะฆ่ายกครัว ผู้เสียหาย รีบขอความช่วยเหลือ ล่าสุดเป็นหนึ่งเข้าช่วยแล้ว ผู้เสียหาย เผย อดีตคนรัก ทำร้ายแม้กระทั่งพ่อซึ่งป่วยเป็นอัมพฤกษ์นอนอยู่ในบ้าน แจ้งความกี่ครั้ง ฝ่ายชายก็ถูกปล่อยตัวออกมา
จากกรณีมีผู้เสียหายรายหนึ่งได้ร้องเรียนมายัง ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง หลังจากคบกับเเฟนมา 3 ปี โดยฝ่ายชายเป็นคนที่โมโหร้ายชอบดื่มเหล้า และมักจะทำร้ายร่างกายฝ่ายหญิงเป็นประจำ จึงตัดสินใจเลิก สุดท้ายฝ่ายชายไม่ยินยอมได้เข้ามาทำร้ายร่างกายพ่อ ซึ่งป่วยเป็นอัมพฤกษ์ถึงในบ้าน ก่อนจะมีการบุกไปหาฝ่ายหญิงถึงที่ทำงาน พร้อมเอามีดไปข่มขู่ก่อนจะลากไปทุบตี แจ้งความกี่ครั้ง ฝ่ายชายก็ถูกปล่อยตัวออกมา
ล่าสุดวันที่ 6 ม.ค.68 เวลา 20:30 น.ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง ได้ลงพื้นที่ไปที่บ้านของผู้เสียหาย ในเขตคันนายาว กรุงเทพฯ โดยได้มีการประสานเจ้าที่ตำรวจสน.โคกคราม เพื่อเข้าช่วยเหลือผู้เสียหายและครอบครัว โดยตอนที่มาถึงทางด้านคุณต้นอ้อก็ได้เข้าไปโผกอด นางสาวนภาวัล (สงวนนามสกุล) ผู้เสียหาย พร้อมกับเข้ากอดนายสวัสดิ์ (พ่อของผู้เสียหาย) ซึ่งต่างก็ร้องไห้ดีใจ หลังจากที่ทางคุณต้นอ้อได้เดินทางเข้ามาช่วยเหลือ
นางสาวนภาวัล ได้เปิดบาดแผลบริเวณแขนข้างซ้าย และบริเวณหน้าอกซึ่งมีรอยเขียวช้ำส่วนบริเวณศีรษะเจ้าตัวบอกว่ายังคงมีอาการบวมอยู่ โดยได้เล่าว่า ตนเองรู้จักกับ นายประเวศ ผู้ก่อเหตุ มาจากตนเองกับเขาทำงานด้วยกัน ซึ่งก็ตัดสินใจคบหากันเมื่อช่วง ปี 65 โดยในสองปีแรกที่คบหากันตนเองไม่ได้ไปอยู่กับเขา แต่มีช่วงปีสุดท้ายที่ตัวเองตัดสินใจเข้าไปอยู่เขา โดยจากนิสัยของเค้าเป็นคนที่โมโหร้าย ทุกครั้งที่ดื่มเหล้าแล้วมีอาการมึนเมา ก็จะมักคิดไปเองว่า ตนเองมีคนอื่นและทุบตีตนเองเป็นประจำ ซึ่งตนเองก็ทนไม่ไหวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็หนีกลับมาที่บ้านบ้างซึ่งเค้าก็จะขู่ว่าจะมาทำร้ายร่างกายคนที่ตนเองรักอย่างเช่นลูก กับพ่อแม่
เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ในประเวศได้บุกมาที่บ้านของตนเองเข้ามาทำร้ายคุณพ่อ พร้อมกับพยายามจะทำร้ายคนในครอบครัวของตนเองที่อยู่ในบ้าน หลังจากเกิดเหตุการณ์นั้นตนเองจึงพาคุณพ่อเข้าไปแจ้งความ ซึ่งสุดท้ายเรื่องก็เงียบ คนก่อเหตุก็ถูกปล่อยตัวออกมา
หลังจากนั้น นายประเวศ ได้มีการถ่ายรูปมีดเข้ามาข่มขู่เป็นประจำ จนกระทั่ง วันที่ 28 ธันวาคม นายประเวศ ได้บุกมาที่ทำงานของตนเอง พร้อมกับถืออาวุธมีดมาข่มขู่ให้ตนเองขึ้นรถจักรยานยนต์กลับไปขับเขาแต่ตนเองไม่ยอมเขาจึงพยายามทำร้ายร่างกายรวมถึงเพื่อนในที่ทำงานสุดท้ายตนเองจึงตัดสินใจขึ้นรถรถจักรยานยนต์กลับไปกับเขาจนกระทั่งเขาก็พาตนเองไปที่หอพักและทำร้ายร่างกายของตนอย่างหนัก จนตนเองตัดสินใจเดินทางเข้ามาแจ้งความอีกครั้ง แต่ในครั้งนี้ก็ถูกปล่อยตัวมาเช่นเดียวกัน
จนมาถึงวันที่ (6 ม.ค.) คนก่อเหตุได้บุกมาหาตนเองที่ ทำงาน แต่ตนเองไม่ได้อยู่เค้าจึงมาตามหาลูกชายของตนเองที่โรงเรียน แต่เผอิญว่าวันนี้ตนเองไปรับลูกมาก่อน ที่เค้าจะไปที่โรงเรียน กระทั่งช่วงดึกของวันนี้คนก่อเหตุก็ได้บุกมาอาละวาดที่หน้าบ้านถึงสองครั้ง จึงทนไม่ไหวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ด้านนายสวัสดิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ60ปี (พ่อของผู้เสียหาย) ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ เส้นเลือดตีบ ได้เล่าไว้กับทีมข่าวว่า ตนเองรับรู้มาโดยตลอดว่าลูกสาวคบกับนายประเวศซึ่งตลอดระยะเวลาสามปีที่ผ่านมาลูกสาวเคยพานายประเวศมาที่บ้านเพียงครั้งเดียวซึ่งตอนที่มาที่บ้านจากที่ตนเองดูลักษณะในประเวศเป็นคนที่ไม่มีสัมมาคารวะ ตอนที่เจอกับตนเองแถมทำนิสัยไม่ดีให้ตนด้วยหลังจากนั้นตนเองจึงบอกลูกสาวว่าไม่ต้องพานายประเวศมาที่บ้านหลังนี้อีก
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมาในวันที่ตนเองถูกทำร้ายร่างกายตอนนั้นตนเองก็นั่งอยู่ที่โต๊ะบริเวณหน้าบ้านซึ่งตอนนั้นประตูก็ไม่ได้ปิดจู่จู่ในประเวศก็บุกเข้ามาที่บ้าน ด่าทอตน และก็ได้ต่อยที่ใบหน้าของตนเองหลายครั้ง ซึ่งตอนนั้นด้วยความที่ตนเองป่วยจึงช่วยเหลือตนเองไม่ได้ หลังจากที่ทำร้ายร่างกายตนเองเสร็จก็พยายามเข้าไปทำร้ายลูกสาวของตนเองอีกคนหนึ่งซึ่งอยู่ในบ้านแต่ลูกสาวไหวตัวทันหลังจากนั้นเขาจึงได้ขี่รถจักรยานยนต์หนีกลับไป
หลังจากเกิดเรื่องขึ้นตนเองได้ไปแจ้งความแต่สุดท้ายคนก่อเหตุก็ถูกปล่อยตัวออกมา พร้อมทั้งบอกว่าทุกวันนี้คนในครอบครัวกังวลในเรื่องของความปลอดภัยไม่รู้ว่าวันไหนเค้าจะกลับมาทำร้ายอีกทั้งนี้ที่บ้านก็มีแต่ คนแก่ เด็ก และผู้หญิง จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการจับตัวคนก่อเหตุเข้าคุกเลย
ต่อมาเมื่อเวลา 21:30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.โคกครามได้มีการเชิญตัวนายประเวศ คนก่อเหตุ มาที่โรงพัก ซึ่งขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการเชิญตัวมา ซึ่งพบว่าเจ้าตัวยังคงมีกลิ่นเหล้า ทีมข่าวได้สอบถาม นายประเวศมีการพูดจาวกวน ปฏิเสธการเข้าไปข่มขู่ฝ่ายหญิงรวมถึงเรื่องการทำร้ายร่างกาย โดยในบางช่วงบางตอนก็มีการพูดว่า สาเหตุที่ทำร้ายร่างกายฝ่ายหญิงนั้น เพราะฝ่ายหญิงกลับมาหาตนไม่ตรงเวลา ส่วนที่เข้าไปทำร้ายร่างกายนายสวัสดิ์ พ่อของฝ่ายหญิงนั้นอ้างว่า ฝ่ายหญิงนั้นได้เอาเงินที่ตนเองเลี้ยงดูไปให้พ่อของเขาใช้จนหมด
ด้านนางสาววรรณา พะละมาตย์ หรือต้นอ้อ ประธานมูลนิธิเป็นหนึ่ง เปิดเผยว่า เริ่มต้นคือทางด้านของนางสาวนภาวัล ผู้เสียหายที่มีการติดต่อมาหาตนเองว่า ถูกอดีตแฟนซึ่งคบหากันได้ประมาณ 3ปี ทำร้ายร่างกาย ซึ่งพอเลิกรากันไป ทางฝ่ายชายไม่ยอมเลิก พยายามมาตามง้อด้วยการข่มขู่หลายครั้ง โดยเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน ก็ได้บุกเข้าไปทำร้ายคุณพ่อซึ่งป่วยเป็นอัมพฤกษ์อยู่ที่บ้าน หลังจากไปแจ้งความเรื่อง ก็เงียบ จนกระทั่งมาวันที่ 28 ธันวาคม เขาก็บุกมาที่ทำงานพร้อมกับมีดข่มขู่ให้ขึ้นรถไปด้วย ซึ่งหากไม่ยอมไปก็จะทำร้ายเพื่อนร่วมงาน จนกระทั่งถูกลากไปทำร้ายที่ห้องพัก จนมาวันนี้ผู้เสียหายทนไม่ไหว เนื่องจากนายประเวศ ได้มาตามที่ทำงานแต่ไม่เจอตัวจึงได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปที่โรงเรียนของลูก แต่โชคดีที่ผู้เสียหายได้เดินทางไปรับลูกจากโรงเรียนก่อน จึงทำให้เขาไม่พอใจบุกมาอาละวาดที่บ้าน
วันนี้ตนเองจึงตัดสินใจลงพื้นที่ทันที เพราะเกรงว่าหากมีการช่วยเหลือช้ากว่านี้ กลัวว่าทางครอบครัวของผู้เสียหาย จะได้รับอันตราย จึงได้ประสานแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.โคกคราม เข้าช่วย และจับกุมตัวนายประเวศมาที่สน.โคกคราม ซึ่งอย่างที่เห็นขณะที่เขามาถึงก็ยังคงมีอาการมึนเมา ให้การตอบสื่อวกวน ในบางช่วงตอนที่ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มีการพูดจาด้วยถ้อยคำที่เสียงดัง