แจ้งจับ "ตำรวจ" ร่วมแก๊งคอลเซนเตอร์

View icon 197
วันที่ 7 ม.ค. 2568 | 16.32 น.
ข่าวเย็นประเด็นร้อน
แชร์
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ผู้เสียหายร้องถูก นายตำรวจระดับรองสารวัตร นำข้อมูลทะเบียนราษฎร์ ไปขายให้แก๊งคอลเซนเตอร์ และพอไปแจ้งความอีกโรงพักหนึ่ง เรื่องกลับเงียบ ไม่มีความคืบหน้า

นางสาวมิ้นท์ และ นายหลุยส์ มาร้องเรียนกับ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พร้อมเล่าว่า มีอาชีพเป็นช่างสัก รับงานสักทั้งในไทยและที่ปอยเปต จึงเดินทางไปทำงานที่กัมพูชาบ่อยครั้ง ต่อมา เข้าไปเป็นสมาชิกในเพจกลุ่มคนไทยทำงานในกัมพูชา ซึ่งเป็นเพจเปิดสาธารณะ สามารถพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและซื้อขายสินค้ากันได้

แต่อยู่ ๆ มีคนนำข้อมูลทะเบียนราษฎร์ ข้อมูลของผู้เสียหายและของพ่อผู้เสียหายมาโพสต์ และส่งข้อมูลมาในอินบ็อกซ์ ในทำนองว่า "มีข้อมูลของตนเองและคนในครอบครัว" ทำให้รู้สึกว่าถูกคุกคาม

ส่วนคนที่มาคุกคามนั้น เชื่อว่า เป็นแก๊งคอลเซนเตอร์ที่ไปทำงานอยู่ในกัมพูชาที่ไม่ชอบหน้ากัน เนื่องจากคนไทยที่ไปทำงานในกัมพูชา จะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มที่ทำงานโดยสุจริต และ 2.กลุ่มที่ไปทำงานเป็นแก๊งคอลเซนเตอร์ ซึ่งทั้ง 2 กลุ่มนี้จะไม่ค่อยถูกกัน จึงคาดว่า เกิดความหมั่นไส้และเข้าใจว่า ตนเองอยู่ในกลุ่มคนที่ต่อต้านแก๊งคอลเซนเตอร์ จึงถูกนำข้อมูลมากลั่นแกล้ง

หลังกลับมาประเทศไทย จึงไปตรวจสอบที่กรมการปกครอง ว่าใครเป็นคนเข้ามาเช็กข้อมูล ปรากฏว่า เป็นชาย ใช้คำนำหน้า ว่าที่ร้อยตรี ซึ่งเป็นนายตำรวจ ระดับรองสารวัตร สังกัด สภ.บ่อวิน จังหวัดชลบุรี เป็นผู้ไปขอข้อมูลทะเบียนราษฎร์ของตนเอง ทำให้เชื่อว่าข้อมูลส่วนตัวที่หลุดออกไปครั้งนี้ มีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยแน่นอน และพอวันที่ 19 ธันวาคม ได้ไปแจ้งความที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ พนักงานสอบสวนกลับไม่รับแจ้ง ให้แค่ลงบันทึกประจำวัน โดยอ้างว่ายังไม่เกิดความเสียหายขึ้น

ด้าน นายเอกภพ เห็นว่า กรณีที่เกิดขึ้นนั้นถือเป็นภัยความมั่นคง เพราะมีเจ้าหน้าที่รัฐไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซนเตอร์ จึงฝากถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ระมัดระวังเฝ้าสอดส่องพฤติกรรม ตำรวจนอกรีดที่อาจไปเกี่ยวข้อง หรือรับผลประโยชน์กับแก๊งคอลเซนเตอร์ และจะประสานขอให้ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ตรวจสอบตำรวจรายนี้ อีกทั้ง จะประสานไปยังผู้กำกับการ สภ.เมืองสมุทรปราการ เพื่อติดตามคดีที่เกิดขึ้นด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง