รวบสาวไทยอายุ 22 ปี ร่วมมือคนจีนขโมยบัตรเครดิตในออนเซ็นไปรูด เสียหายกว่า 3 แสนบาท
พันตำรวจเอก พันษา อมราพิทักษ์ ผู้กำกับการ สน.ทองหล่อ เปิดเผยถึงกรณีสาวแสบขโมยบัตรเครดิตในร้านออนเซ็น ผู้เสียหายส่วนเงินไปกว่า 343,000 บาท จากบัตร 4 ใบ
ล่าสุด (8 ม.ค.68) สามารถจับกุม น.ส.ธัญชนก อายุ 22 ปี ในข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยผ่านสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองทรัพย์นั้น ร่วมกันใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ในการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น,ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่ผู้ออกได้ออกให้แก่ผู้มีสิทธิ์ใช้เพื่อประโยชน์ในการชำระค่าสินค้า ค่าบริการ หรือหนี้อื่น แทนการชำระด้วยเงินสด" จับกุมได้ที่ คอนโดแห่งหนึ่งย่านคลองตันเหนือ
พฤติการณ์ของคนร้าย จะทำทีเข้าไปเป็นลูกค้า โดยจะเข้าไป 2 คน เพื่อรับริชแบนด์ เข้าไปใช้บริการด้านใน ซึ่งริชแบนด์ที่ได้รับ จะใช้เป็นกุญแจอิเล็กทรอนิกส์เปิดล็อกเกอร์สำหรับเก็บของ จากนั้นคนร้ายจะนำริชแบนด์ออกไปให้ ผู้ร่วมขบวนการอีกคนเพื่อคัดลอกข้อมูลแถบแม่เหล็กริสแบนด์ แล้วกลับเข้ามาใช้บริการตามปกติ
ส่วนผู้ร่วมขบวนการจะทำการคัดลอกข้อมูล ทำริชแบนด์ขึ้นมาอีกอัน เพื่อเก็บเอาไว้เปิดล็อกเกอร์อันเดิมในวันต่อไป การนำเงินออกไป คนร้ายจะใช้ นำริชแบนด์โคลนนิ่งไปเปิดตู้ล็อกเกอร์นำบัตรเครดิตของผู้เสียหายมารูดกับเครื่องรูดบัตรเครดิตที่เช่ามา ที่สามารถรูดจำนวนเงินได้ตามต้องการ โดยจะสุ่มกดยอดสูงแล้วค่อยลดหลั่นลงมาตามยอดวงเงินของบัตร จากนั้นจะนำบัตรเครดิตเก็บไว้ในกระเป๋าของผู้เสียหายเช่นเดิมเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผู้เสียหายจะมาทราบภายหลังก็ตอนเห็นยอดแจ้งบัตรเครดิตหลายครั้งเป็นเงินจำนวนมากที่ถูกรูดออกไป
พันตำรวจเอก พันษา ยังบอกว่า พฤติการณ์ของคนร้ายจะเลือกใช้สถานที่ร้านออนเซ็นเป็นเป้าหมายหลัก เพราะเป็นร้านที่มีลูกค้าที่มีฐานะและกำลังซื้อสูง และ จุดติดตั้งล็อกเกอร์และจุดเปลี่ยนเสื้อผ้าไม่มีกล้องวงจรปิดซึ่งง่ายต่อการก่อเหตุ
คนร้าย รับสารภาพว่า เริ่มก่อเหตุเมื่อต้นเดือนธันวาคม เพราะก่อนหน้านี้คนร้ายเคยเป็นผู้ให้เช่าเครื่องรูดบัตรเครดิตและถูกผู้ร่วมขบวนการชักชวนให้ก่อเหตุ และเคยไปร่วมเซอร์เวย์ ร้านที่เกิดเหตุเมื่อเดือนพฤศจิกายน ก่อนจะลงมือเองในเดือนถัดมา แล้วเคยก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง ในร้านออนเซ็นที่เดียว แต่มีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความ 4 คน รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 1 ล้านบาท
โดยขณะนี้สามารถจับกุมได้ 1 คน และขยายผลผู้ร่วมขบวนการที่ออกหมายจับแล้วอีก 2 คนเป็นหญิงไทย 1 คนและชายชาวจีน 1 คน
นอกจากนี้ยังฝาก ไปถึงผู้ประกอบการร้านออนเซ็น ฟิตเนส สปา ร้านนวด สนามกอล์ฟแบดมินตัน ที่มีการให้บริการล็อกเกอร์ ให้เลือกใช้ระบบล็อคแบบแน่นหนา หรือใช้ระบบล็อคแบบใส่รหัส หลายชั้น และคอยสังเกตผู้ใช้บริการหากมาใช้ถี่จนผิดปกติจนน่าสงสัย พร้อมแนะนำผู้ใช้บริการให้ตรวจสอบทรัพย์สินทุกครั้งหลังใช้บริการ
ส่วนธนาคารจะต้อง สังเกตบริการของลูกค้าที่ถือบัตรเครดิตว่า หากมีการรูดซื้อของหลายครั้งในช่วงเวลาเดียวกันจนผิดปกติให้รีบแจ้งเตือนลูกค้า และควรตรวจสอบกลับกับเจ้าของบัตรเครดิตก่อนจะโอนยอดไปยังบัญชีปลายทาง
