ค้นหา 3 วัน เจอตัวแล้วเสือโคร่งบาดเจ็บ ข้อเท้าติดบ่วง

ค้นหา 3 วัน เจอตัวแล้วเสือโคร่งบาดเจ็บ ข้อเท้าติดบ่วง

View icon 161
วันที่ 9 ม.ค. 2568 | 08.05 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
เจอตัวแล้ว เสือโคร่งหลังค้นหานาน 3 วัน พบข้อเท้าติดบ่วง ลวดสลิงพันติด เคลื่อนย้ายไปรักษาต่อที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าบึงฉวาก ท่ามกลางภัยคุกคามจากบ่วงดักสัตว์ แต่การพบเสือโคร่งป่าห้วยขาแข้งก็เป็นข่าวดีถึงการเชื่อมต่อของระบบนิเวศระหว่างผืนป่าตะวันตก

ค่ำวานนี้ (8 ม.ค.68) นายชุติเดช กมนณชนุตม์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) เปิดเผยถึงปฏิบัติการช่วยชีวิตเสือโคร่งจากผืนป่าห้วยขาแข้งที่บาดเจ็บจากบ่วงดักสัตว์นอกเขตอุทยานแห่งชาติพุเตย โดยได้ระดมทีมค้นหาและช่วยเหลือนานกว่า 3 วัน จนประสบความสำเร็จ

นางสาวสาวิตรี เชื้อพงษ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติพุเตย รายงานว่าปฏิบัติการครั้งนี้เป็นการระดมทีมจากหลายหน่วยงาน ทั้งเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติพุเตย สัตวแพทย์จากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) 2 นาย และเจ้าหน้าที่จากศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าเขาประทับช้างและบึงฉวาก โดยเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 8 ม.ค.67 ได้พบร่องรอยและได้ยินเสียงขู่ของเสือ  ทีมเจ้าหน้าที่ได้วางแผนล้อมจับด้วยสแลนเพื่อกระชับพื้นที่ พร้อมระดมกำลังค้นหาทั้งภาคพื้นและใช้อากาศยานไร้คนขับ กระทั่งเวลา 18.30 น. พบเสือนอนอยู่ในร่องห้วยที่มีหญ้ารกทึบ เจ้าหน้าที่จึงถางหญ้าและยิงยาสลบเพื่อเข้าช่วยเหลือ

จากการตรวจสอบพบว่าเป็นเสือโคร่งเพศเมีย จากผืนป่าห้วยขาแข้ง อายุไม่เกิน 7 ปี ได้รับบาดเจ็บที่ข้อเท้าหน้าขวาจากลวดสลิง ทีมสัตวแพทย์ได้เร่งรักษาด้วยการตัดลวดสลิงออก ทำความสะอาดแผล ให้ยาฆ่าเชื้อ สารน้ำและวิตามิน ก่อนนำตัวมาดูแลต่อที่ที่ทำการอุทยานฯ

เมื่อเวลา 20.45 น. หลังเสือฟื้นจากยาสลบและมีอาการดี จึงเคลื่อนย้ายไปรักษาต่อที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าบึงฉวาก ซึ่งเป็นสถานพยาบาลที่ใกล้ที่สุด โดยมีสัตวแพทย์ 2 นาย ติดตามดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดการเดินทาง

ผอ.สบอ.3 กล่าวว่า การพบเสือโคร่งจากผืนป่าห้วยขาแข้งในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงการเชื่อมต่อของระบบนิเวศระหว่างผืนป่าตะวันตก แต่ในขณะเดียวกันก็สะท้อนให้เห็นถึงภัยคุกคามจากการวางบ่วงดักสัตว์ที่ยังคงเป็นปัญหาสำคัญต่อการอนุรักษ์สัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์ และยืนยันว่าจะมีการติดตามอาการอย่างใกล้ชิด พร้อมวางแผนการรักษาโดยทีมสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้เสือโคร่งตัวนี้แข็งแรงและสามารถกลับคืนสู่ธรรมชาติได้อย่างปลอดภัย

สำหรับการระบุตัวตนเสืออยู่ระหว่างการตรวจสอบเทียบลายกับฐานข้อมูลเสือโคร่งที่พบในป่าตะวันตก หากมีความคืบหน้า จะรายงานให้ทราบต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง