หนุ่มเมาแล้วขับ ชน 3 คัน ยิ้มหวาน บอกอย่าตื่นเต้น

View icon 100
วันที่ 9 ม.ค. 2568 | 11.12 น.
ห้องข่าวภาคเที่ยง
แชร์
ห้องข่าวภาคเที่ยง - ชายอายุ 49 ปี เมาแล้วขับ ขับรถพุ่งชนท้ายรถกระบะที่จอดติดไฟแดงเต็มแรง จนกระเด็นไปอัดท้ายรถพ่วง 22 ล้อ มีผู้บาดเจ็บ 2 คน เจ้าตัวลงจากรถด้วยอาการยิ้มแป้นแล้น บอกว่า ไม่มีอะไร อย่าตื่นเต้น

หนุ่มเมาแล้วขับ ชน 3 คัน ยิ้มหวาน บอกอย่าตื่นเต้น
ยิ้มหวานแป้นแล้นลงจากรถมาแบบนี้ เอาจริง ๆ ไม่ช่วยนะ จนเกือบหวิดจะถูกวางมวย เพราะเมาแล้วขับ พอถามว่าเมาไหม หน้าเสียนิดหนึ่ง ก่อนตอบว่า "พี่ ๆ แค่นี้พอ" แล้วยังบอกว่า ให้ใจเย็น ๆ แต่ไม่ตอบนะว่าเมาหรือไม่ แต่ดูจากสภาพคือเมาแน่นอน ยิ้มหวานตาเยิ้มขนาดนี้ 

นี่เป็นเหตุการณ์ที่ นายอาทิตย์ อายุ 49 ปี ขับรถยนต์พุ่งชนรถยนต์อเนกประสงค์สีขาว ของนายดรัสพงศ์ อายุ 27  ปี ที่เป็นคนขับ และมีนางสาวน้องใหม่ อายุ 20 ปี คนนั่ง จนกระเด็นไปอัดท้ายรถพ่วง 22 ล้อ สีขาว ของนายนวพล อายุ 32 ปี ที่จอดอยู่คันหน้าเต็มแรง จนทำให้คนขับและนั่งในรถยนต์อเนกประสงค์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนสภาพรถยนต์พังยับเยิน

เหตุเกิดที่บริเวณสี่แยกไฟแดงท่าสะอ้าน ถนนสิริโสธร อำเภอบางปะกง ขาเข้า จังหวัดฉะเชิงเทรา 

สุดท้าย ตำรวจพาตัวไปสภ.บางปะกง เพื่อเป่าแอลกอฮอล์ ปรากฎว่ามีค่าสูงถึง 170 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ สูงขนาดนี้ รู้แล้วใช่ไหม ทำไมลงจากรถแบบตาเยิ้มยิ้มหวาน นำตัวดำเนินคดีทันที

นาทีช่วยคนขับรถพ่วง อัมพาตครึ่งซีก
อีกเหตุการณ์เกิดขึ้นที่บางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทราเหมือนกัน เป็นนาทีตำรวจเข้าช่วยเหลือคนขับรถพ่วง 22 ล้อ ที่จอดรถขวางถนน ตอนแรกคุยไม่รู้เรื่อง คิดว่าเมา แต่พอคนขับพยายามลงจากรถ กลับพบว่าร่างกายด้านขวาไม่มีแรง ทำให้ต้องรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล

ที่เกิดเหตุพบรถพ่วงจอดขวางถนน ทำให้รถที่ใช้เส้นทางติดหนัก โดยภายในรถพบ นายกรุง ราชคฤห์ อายุ 49 ปี คนขับนั่งอยู่ในรถ พอสอบถามก็คุยไม่รู้เรื่องและมีอาการคล้ายคนมึนเมา ระหว่างนั้นทางตำรวจได้ไปเปิดประตูฝั่งคนขับ ปรากฎว่านายกรุง มีอาการไม่เหมือนคนปกติ เพราะไม่ได้ใช้มือขวาและขาขวา และพยายามลงจากรถ แต่ลงไม่ได้

ผู้สื่อข่าวจึงต้องเข้าไปประคองแล้วนำลงมาจากรถ ก่อนที่ตำรวจจะเข้ามาช่วยนำตัวมาแอบข้างทาง แล้วพอพูดคุยก็พบว่าคุยไม่รู้เรื่อง และทำการเป่าแอลกอฮอล์ก็มีผลเป็น 0

จนสุดท้ายพบว่าซีกขวาของนายกรุงไม่มีแรงเป็นอัมพาต จนเชื่อว่านายกรุงน่าจะเป็นเส้นเลือดในสมองตีบ ก่อนจะรีบหามตัวนายกรุงขึ้นท้ายรถกระบะ นำตัวส่งโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 11 เพราะร่างกายซีกขวาเริ่มบวมเยอะขึ้น

นายกรุงบอกเพียงว่า จู่ ๆ ร่างกายซีกขวาไม่มีแรง ก่อนจะบังคับรถไม่อยู่ จนไปชนแบริเออร์ แล้วขับถอยหลังมาจอดและขับต่อไม่ได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง