ไฟป่าในนครลอสแอนเจลิส ของสหรัฐฯ ยังคงลุกลามอย่างหนักโดยที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะควบคุมได้ ขณะที่ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงประสบปัญหาขาดแคลนน้ำที่จะใช้ดับไฟ
ไฟป่าในนครลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ของสหรัฐฯ ที่เริ่มลุกไหม้ขึ้นเมื่อช่วงกลางดึกของวันอังคารที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น ในย่านแปซิฟิกพาลิเซดส์ (Pacific Palisades) ขณะนี้ไฟป่าได้ขยายพื้นที่ลุกลามไปยังนอกพื้นที่รอบนครลอสแอนเลลิสแล้ว โดยมีรายงานไฟป่าอย่างน้อย 6 จุด รวมทั้งไฟป่า "ซันเซ็ต ไฟเออร์" (Sunset Fire) ที่เผาไหม้พื้นที่ย่าน "ฮอลลีวูด ฮีลส์" (Hollywood Hills) ทำให้ทางการต้องประกาศคำสั่งอพยพประชาชนเพิ่มเติมอีก
ขณะที่ ไฟป่า "พาลิเซดส์ ไฟเออร์" (Palisades Fire) ที่กำลังเผาทำลายพื้นที่ทางตะวันตก ตั้งแต่บริเวณเมืองชายฝั่ง "แซนตา มอนิกา" (Santa Monica) ไปจนถึงมาลิบู (Malibu) และไฟป่า "อีตัน ไฟเออร์" (Eaton Fire) ในพื้นที่ทางตะวันออก ตั้งแต่เชิงเขา "ซานกาเบรียล" (San Gabriel) ไปจนถึงเมืองแพซาดีนา (Pasadena) รวมทั้งไฟป่าในจุดอื่น ๆ ทำให้มีพื้นที่ได้รับความเสียหายแล้วกว่า 70,000 ไร่ บ้านเรือนราว 1,000 หลัง ถูกเผาวอด บ้านเรือนและร้านค้าเกือบ 300,000 หลัง ไม่มีไฟฟ้าใช้ ประชาชนกว่า 130,000 ต้องอพยพ และมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 คน โดยคาดว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตจะเพิ่มสูงขึ้นอีก
นับเป็นเหตุการณ์ไฟป่าครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของนครลอสแอนเจลิส เนื่องจากภาพความแห้งแล้ง และลมกระโชกแรง เป็นอุปสรรคสำคัญในการควบคุมเพลิง โดยทางการรัฐแคลิฟอร์เนียระดมเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน ทั้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิง, เจ้าหน้าที่หน่วยฉุกเฉิน และกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ รวมกว่า 7,500 นาย เข้าควบคุมสถานการณ์ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากรัฐอื่น ๆ อีก 6 รัฐ ก็กำลังเร่งเดินทางเข้ามาช่วยเหลือ
ด้านบริษัทพยากรณ์อากาศเอกชน "แอคคิวเวเธอร์" (AccuWeather) ประเมินความเสียหายเบื้องต้นและความสูญเสียทางเศรษฐกิจมากกว่า 50,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือกว่า 1.7 ล้านล้านบาท
