เช้านี้ที่หมอชิต - แม้ตอนนี้ "จ่าเอ็ม" มือยิงอดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา จะถูกจับกุมอยู่ที่จังหวัดพระตะบอง ประเทศกัมพูชา ยังไม่รู้จะส่งตัวกลับไทยได้เมื่อไหร่ แต่ตำรวจไม่หยุดการสืบสวนฯ เรียกครอบครัวและผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมาสอบปากคำ รวบรวมหลักฐานเก็บไว้ เพราะเชื่อคดีนี้ทำเป็นขบวนการ
เมื่อวานนี้ (9 ธ.ค.) ครอบครัวของนายลิม กิมยา อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา เดินทางไปพบพนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม และขอให้พาไปดูร่างผู้เสียชีวิต เพื่อทำเรื่องขอรับกลับไปทำพิธีตามศาสนา เบื้องต้นครอบครัวกำลังหารือว่าจะรับร่างแล้วกลับไปทำพิธีที่ต่างประเทศดีหรือไม่ เนื่องจากกลัวขั้นตอนยุ่งยาก แต่วันนี้ บ่ายโมงตรง ตำรวจจะพาครอบครัวนายลิม กิมยา ไปที่ศาลฯ เพื่อสืบพยานล่วงหน้าก่อน
นอกจากนี้ ตำรวจยังพาน้องสาวของจ่าเอ็ม มาสอบปากคำ ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล หลังนำปืนที่จ่าเอ็มฝากไว้ไปมอบให้ตำรวจภูธรภาค 2 เพราะรู้ข่าวว่าพี่ชายไปยิงคนตายมา
ผลตรวจสอบปืนที่จ่าเอ็มฝากกับน้องสาว พบเป็นปืนลูกโม่ ถูกขูดลบหมายเลขทะเบียน มีกระสุนค้างในรังเพลิง 6 นัด และปลอกกระสุนที่ยิงแล้ว 2 ปลอก
ทีมข่าวไล่เรียงข้อมูล พบหลังจ่าเอ็มขี่รถไปจอดทิ้งไว้ในปั๊มก๊าซ แล้วเหมารถแท็กซี่ไปส่งที่หน้าห้างฯ ในตำบลบ่อวิน อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ราคา 1,500 บาท
จากนั้นโทรเรียกน้องสาวออกมาพบ แล้วฝากกระเป๋าใบหนึ่งไว้ อ้างมีธุระด่วน น้องสาวไม่สงสัยรับกระเป๋าที่ข้างในมีปืนกลับไป ส่วนจ่าเอ็มเรียกวินรถจักรยานยนต์รับจ้างไปหาวัยรุ่นชายสองคนที่ขับรถกระบะมารับ แล้วพาไปส่งจุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน จังหวัดสระแก้ว
เมื่อวาน เราได้นำเสนอข้อมูลว่า รถจักรยานยนต์ที่จ่าเอ็มใช้ก่อเหตุ ถูกขโมยมา ซึ่งตำรวจได้เชิญผู้ครอบครองรถคันดังกล่าวมาสอบปากคำ ยืนยันไม่รู้จักกับจ่าเอ็ม และได้ให้เพื่อนยืมรถใช้ตั้งแต่กุมภาพันธ์ 2567 ต่อมาเพื่อนบอกรถหายจึงไปแจ้งความ มารู้อีกทีคือรถถูกนำไปก่อเหตุยิงคนตาย
ส่วนปืนที่ใช้ก่อเหตุ ทางจ่าเอ็มนำไปจำนำไว้กับเพื่อนที่เป็นตำรวจท่องเที่ยว 20,000 บาท ซึ่งก่อนลงมือยิงนายลิม กิมยา ผู้ว่าจ้างได้โอนค่าจ้างก้อนแรก 30,000 บาทมาให้ จ่าเอ็มนำเงินก้อนนี้ไปไถ่ปืนมาก่อเหตุ โดยจ้างวินรถจักรยานยนต์ไปรับและนำมาส่งให้ที่วินฯ ในซอยสุขุมวิท 22 ซึ่งตำรวจนายนี้ ถูกเชิญมาสอบปากคำเช่นกัน
มีรายงานข่าวจากตำรวจนครบาล 1 ว่า กองการต่างประเทศได้ทำเรื่องขอออกหมายแดงกับตำรวจสากล เพื่อให้ติดตามตัวจ่าเอ็ม และนายพิช คนชี้เป้า กลับมาดำเนินคดีในไทยแล้ว และ ผบ.ตร. ได้ลงนามขอความร่วมมือส่งตัวผู้ต้องหากลับมาดำเนินคดีในไทยเรียบร้อย ต้องรอฟังผลจากกัมพูชาว่าจะดำเนินการเรื่องนี้ต่ออย่างไร
