ชายต่างชาติกับหญิงไทย เมาหนักขับเก๋งชนรถเข็นขายส้มตำ พ่อค้าส้มตำบาดเจ็บหัวแตก หลังเกิดเหตุหญิงไทยที่มาในรถคันเกิดเหตุ กลับต่อว่า ผู้บาดเจ็บว่า สำออยเจ็บไม่จริง และพยายามจะเปลี่ยนตัวคนขับ ทั้งอาละวาดใส่ชาวบ้าน และขัดขวางเจ้าหน้าที่ที่เข้ามาช่วยเหลือ เจ้าตัวยังอ้าง รู้จักเจ้าหน้าที่ตำรวจยศใหญ่ จะมาจับได้อย่างไร ขณะที่ พ่อค้าส้มตำ ที่บาดเจ็บ ไม่กล้าไปหาหมอ เพราะกลัวไม่มีเงินจ่ายค่ารักษา
เมื่อเวลา 05.00 น.วันที่ 10 มกราคม 2568 ศูนย์วิทยุหน่วยกู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา รับแจ้งอุบัติเหตุรถยนต์เฉี่ยวชนรถเข็นขายของ เหตุเกิดที่ปากซอยบัวขาว ฝั่งพัทยากลาง ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา พร้อมนำกำลังเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยฯรีบไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบรถเข็นขายส้มตำ อาหารอีสาน ได้รับความเสียหาย ข้าวของกระจัดกระจายเกลื่อนถนน หลังถูกรถยนต์เก๋งโตโยต้า วีรอส สีบรอนซ์ ชนได้รับความเสียหายด้านหน้า โดยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติอยู่ในอาการมึนเมาอย่างหนักเป็นคนขับ ส่วนตัวพ่อค้าทราบชื่อภายหลังคือนายศักดา อายุ 58 ปี ได้รับมีบาดแผลแตกที่ศีรษะ ถลอกตามร่างกายเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯปฐมพยาบาลเบื้องต้น แต่ไม่ประสงค์ไปโรงพยาบาล เพราะกลัวไม่มีเงินจ่ายค่ารักษา ขณะเดียวกันรถคันเกิดเหตุมีหญิงไทยโดยสารมาด้วย และหลังเกิดเหตุยังตะโกนต่อว่า คนขายส้มตำว่า สำออยเจ็บไม่จริง
ขณะเดียวกันชาวบ้านปรบมือ หัวเราะร่า ตะโกนด้วยความสะใจ หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวทั้งคนขับ และผู้หญิงคนไทย ที่ด่าทอผู้บาดเจ็บ ว่าสำออยเจ็บไม่จริง และพยายามจะเปลี่ยนตัวคนขับ ทั้งอาละวาดใส่ชาวบ้าน และขัดขวางเจ้าหน้าที่ที่เข้ามาช่วยเหลือ จนต้องช่วยกันจับอย่างโกลาหล โดยเจ้าตัวยังอ้างอีกว่ารู้จักเจ้าหน้าที่ตำรวจยศใหญ่ มาจับตนเองได้อย่างไร
สอบถามผู้เห็นเหตุการณ์เปิดเผยว่า สังเกตเห็นผู้ชายชาวต่างชาติ ขับรถยนต์เก๋งพุ่งชนพ่อค้ารถเข็น แต่แทนที่จะลงมาช่วยเหลือ กับด่าทอและอ้างว่าตนเองเป็นฝ่ายถูกชน โดยไม่สนว่าจะได้รับบาดเจ็บหรือไม่ ทั้งยังพยายามทำร้ายเจ้าหน้าที่อีกด้วย
เบื้องต้นร.ต.อ.สมบัติ แก้วมูลมุข รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองพัทยา ตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมควบคุมตัวทั้งผู้หญิง ซึ่งอยู่ในอาการมึนเมาอย่างหนัก อ้างว่าเป็นคนขับ ส่วนชาวบ้านแจ้งว่าชาวต่างชาติเป็นคนขับ ก็จะต้องตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อหาตัวผู้ขับขี่ตัวจริง เพื่อดำเนินคดีตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป
