อัปเดตอาการ “เสือโคร่ง” จาก อช.พุเตย ขาหน้าขวาติดบ่วง ล่าสุด อาการบวมลดลง, เริ่มลงน้ำหนักได้ทั้ง 4 ขา, กินอาหารได้, และอุจจาระและปัสสาวะเป็นปกติ หลังจากนี้จะมีการประเมินอาการอย่างต่อเนื่องเป็นรายวัน
วันนี้ (10 ม.ค.68) คณะเจ้าหน้าที่และทีมสัตวแพทย์จากส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวาก และศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก รายงานความคืบหน้าอาการของ “เสือโคร่ง” เพศเมีย อายุประมาณ 7 ปี จากอุทยานแห่งชาติพุเตย จ.สุพรรณบุรี ได้รับบาดเจ็บจากการติดบ่วงดักสัตว์แบบลวดสลิงบริเวณขาหน้าข้างขวา
ทาง สพ.ญ.ลักษณา ประสิทธิชัย นายสัตวแพทย์ชำนาญการพิเศษ ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่าสำนักบรืหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) และ สพ.ญ.ณฐนน ปานเพ็ชร หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวากและศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก เผยว่า จากการตรวจสอบอาการ “เสือโคร่ง” เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2568 เวลา 18.00 น. พบว่าแผลบริเวณขาหน้าข้างขวามีอาการบวมลดลงเมื่อเทียบกับวันที่ 8 มกราคม 2568 เสือโคร่งสามารถลงน้ำหนักได้ทั้ง 4 ขา แม้ขาหน้าข้างขวาจะยังไม่สามารถลงน้ำหนักได้เต็มที่ก็ตาม ด้านการกินอาหารก็สามารถกินเนื้อหมูได้ 2 กิโลกรัมในช่วงเวลา 12.30-18.00 น. โดยทีมสัตวแพทย์ได้จัดเตรียมเนื้อหมูไว้ทั้งหมด 3 กิโลกรัม และจะติดตามการกินอาหารเพิ่มเติมในวันถัดไป นอกจากนี้ เสือยังมีการขับถ่ายอุจจาระและปัสสาวะเป็นปกติ
โดยทางทีมสัตวแพทย์ได้ดำเนินการรักษาด้วยยาหลายชนิด ประกอบด้วย ยาลดปวด ยาลดการอักเสบ ยาฆ่าเชื้อ วิตามินบำรุง และยาถ่ายพยาธิทั้งภายในและภายนอก พร้อมทั้งได้จัดการสภาพแวดล้อมโดยการขึงสแลนรอบบริเวณกรงเลี้ยงเพื่อให้มีความสงบที่สุด และมีคำสั่งห้ามบุคคลภายนอกเข้าพื้นที่บริเวณดูแลรักษาโดยเด็ดขาด เพื่อประโยชน์ต่อการฟื้นฟูสุขภาพของเสือ โดยการดูแลรักษาอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของทีมสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หลังจากนี้จะมีการประเมินอาการเสือโคร่งอย่างต่อเนื่องเป็นรายวัน เพื่อพิจารณาการปล่อยคืนสู่ถิ่นที่อยู่ตามธรรมชาติต่อไป