เด็กไทยป่วยซึมเศร้า เสี่ยงทำร้ายตัวเอง 17%

เด็กไทยป่วยซึมเศร้า เสี่ยงทำร้ายตัวเอง 17%

View icon 74
วันที่ 11 ม.ค. 2568 | 14.29 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
เด็กไทยป่วยซึมเศร้า 2,200 คน ต่อประชากรแสนคน เสี่ยงทำร้ายตัวเอง 17.4% ซ้ำเข้าไม่ถึงบริการสุขภาพจิตที่กระจุกอยู่ใน กทม.

วันเด็กแห่งชาติ (11 ม.ค. 68) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สานพลังภาคีเครือข่ายขับเคลื่อนงานสุขภาวะเด็กและเยาวชน จัดกิจกรรม “ดูแลวัยเด็กด้วยศิลปะด้านใน ภายใต้โครงการโมเดลวิทยากรต้นแบบศิลปะด้านในเชิงลึกเพื่อขยายชุมชนการเรียนรู้และพัฒนาสุขภาวะเด็กก่อนวัยรุ่น เปิดพื้นที่ให้เด็ก เยาวชน พ่อแม่ และผู้ดูแลเด็กได้เรียนรู้ศิลปะด้านใน ส่งเสริมให้เด็กมีพัฒนาการดีสมวัย เพิ่มความผูกพันในครอบครัว และสร้างแรงบันดาลใจในการนำองค์ความรู้ศิลปะไปใช้สร้างสุขภาวะที่ดีให้กับเด็ก ครอบครัว และชุมชน

น.ส.ณัฐยา บุญภักดี ผู้อำนวยการสำนักอาวุโส สำนักสนับสนุนสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว สสส. กล่าวว่า ปัญหาสุขภาพจิตของเด็กและเยาวชนไทยยังคงเป็นปัญหาใหญ่และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น จากรายงานการสังเคราะห์ชุดนโยบายสุขภาพจิตของประชากรชาวไทยภายใต้บริบทหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ปี 2567 พบว่า อัตราการฆ่าตัวตายสำเร็จ เพิ่มขึ้นจาก 6.11 คนต่อประชากรแสนคนในปี 2560 เป็น 7.94 ในปี 2566

กลุ่มเยาวชนอายุ 15-19 ปี พยายามฆ่าตัวตายมากที่สุด คิดเป็นอัตรา 116.8 คนต่อประชากรแสนคน สอดคล้องกับข้อมูลศูนย์ความเป็นเลิศด้านนวัตกรรมดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์เพื่อการแพทย์ด้านจิตเวชที่ประเมินว่า มีเยาวชนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไป ตรวจพบอาการซึมเศร้าสูงถึง 2,200 คนต่อประชากรแสนคน นอกจากนี้ ยังพบว่าเด็กและเยาวชนเข้าถึงบริการสุขภาพจิตได้ยาก เพราะจำเป็นต้องใช้จิตแพทย์ที่เชี่ยวชาญเฉพาะทางทั้งประเทศมีเพียง 295 คน และกระจุกตัวอยู่ในกรุงเทพฯ ไปแล้ว 1 ใน 3 ของจำนวนจิตแพทย์ที่เชี่ยวชาญเฉพาะทางทั้งหมด

“เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ปี 2568 สสส. ร่วมกับภาคีขับเคลื่อนงานสุขภาวะเด็กและเยาวชนจัดกิจกรรม ดูแลวัยเด็กด้วยศิลปะด้านใน เพื่อสร้างสุขภาวะที่ดีให้เด็กและเยาวชนทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ ผ่านการใช้กระบวนการศิลปะ เช่น การเล่านิทาน การวาดภาพระบายสี และการจัดดอกไม้ ในขณะที่ทำงานศิลปะ เด็กจะได้พบความเบิกบาน ความงดงาม และความสงบในใจ ได้ทบทวนและมีสมาธิอยู่กับตัวเอง” น.ส.ณัฐยา กล่าว

นายอนุพันธุ์ พฤกษ์พันธ์ขจี กล่าวว่า เด็กและเยาวชนไทยปัจจุบันถูกคาดหวังให้สมบูรณ์แบบ ผู้ปกครองส่วนใหญ่ให้ความสนใจเฉพาะเรื่องวิชาการ ขาดทักษะการเลี้ยงลูกและระบบการศึกษาไม่รักษาความเป็นธรรมชาติของวัยเด็ก ส่งผลให้เด็กขาดอิสระ เกิดความเครียดสะสม กระทบโดยตรงต่อสุขภาพจิต จากรายงานผลสำรวจข้อมูลกลุ่มเด็กและเยาวชน อายุต่ำกว่า 18 ปี 503,884 ราย โดยกรมสุขภาพจิต ผ่านแอปพลิเคชัน Mental Health Check-in ระหว่างเดือน ก.พ. 2565-ต.ค. 2567 พบเด็กเสี่ยงทำร้ายตนเอง 17.4% เสี่ยงป่วยซึมเศร้า 10.28% 

ภายในงานมีกิจกรรม 4 โซนไฮไลท์ 1.โซนกิจกรรมวงกลมยามเช้า (Morning Circle) เป็นการละลายพฤติกรรม ให้เด็กและผู้ปกครองเกิดการรวมใจเป็นหนึ่งเดียวด้วยบทกลอน และเสียงเพลง  2.โซนเล่านิทานเสริมสร้างจินตภาพ ฟังการเล่านิทานจากผู้เชี่ยวชาญ ช่วยส่งเสริมให้เด็กมีจินตนาการที่ไร้ขีดจำกัด 3.โซนสีขี้ผึ้งธรรมชาติ ชวนน้องๆ วาดภาพด้วยสีขี้ผึ้งจากธรรมชาติ เน้นส่งเสริมจินตภาพ และรักษาความเป็นอิสระในวัยเด็ก 4.โซนดอกไม้จัดใจคน ส่งเสริมให้เด็กได้จัดดอกไม้ตามจินตนาการ ส่งเสริมในเรื่องการมีอิสระด้านความคิด โดยไม่ถูกตีกรอบจากผู้ใหญ่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง