มท. 1 มอบธงแห่งความรัก 878 อำเภอทั่วไทย พร้อมเป็นนายทะเบียน สมรสเท่าเทียม

มท. 1 มอบธงแห่งความรัก 878 อำเภอทั่วไทย พร้อมเป็นนายทะเบียน สมรสเท่าเทียม

View icon 60
วันที่ 13 ม.ค. 2568 | 16.55 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
"อนุทิน" Kick off มอบธงแห่งความรักทั่วไทย ภายใต้แนวคิด "สมรสเท่าเทียม ยินดีกับทุกความรัก 878 อำเภอ ทั่วไทย ย้ำ "ความรักไม่มีพรมแดน" และ "ความเท่าเทียม" คือสิทธิขั้นพื้นฐานที่ทุกคนควรได้รับอย่างเสมอภาค

วันนี้ (13 ม.ค. 68) เวลา 13.30 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีไทยและ รมว.มหาดไทย เป็นประธาน Kick off แสดงความพร้อมเชิงสัญลักษณ์ "มอบธงแห่งความรักทั่วไทย" ตามโครงการขับเคลื่อนการปฏิบัติงานด้านการบริการประชาชนบนหลักการความเสมอภาคและเท่าเทียม ภายใต้แนวคิด "สมรสเท่าเทียม ยินดีกับทุกความรัก 878 อำเภอ ทั่วไทย (Embracing Equality : Love Wins in 878 Districts)" จัดโดยกรมการปกครองร่วมกับสหประประชาชาติในประเทศไทย (United Nations Country Team in Thailand) โดยมี น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย คุณมิเกลล่า ฟิลแบรย์-สตอเร่ (H.E. Ms. Michaela Friberg-Storey) ผู้แทนเลขาธิการสหประชาชาติประจำประเทศไทย (United Nations Resident Coordinator in Thailand)  เอกอัครราชทูตประเทศต่าง ๆ นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นางจิณณารัชช์ สัมพันธรัตน์ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย อธิบดี ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน ผู้แทนภาคประชาสังคม สื่อมวลชน และภาคีเครือข่าย ร่วมในกิจกรรม

กิจกรรมครั้งนี้ เป็นส่วนสำคัญของโครงการขับเคลื่อนการปฏิบัติงานด้านการบริการประชาชนบนหลักการความเสมอภาคและเท่าเทียมภายใต้แนวคิด "สมรสเท่าเทียม ยินดีกับทุกความรัก 878 อำเภอ ทั่วไทย (Embracing Equality: Love Wins in 878 Districts)" โดยนายอนุทิน ได้กล่าวแสดงความพร้อมของกระทรวงมหาดไทยในการให้บริการประชาชนตามกฎหมายสมรสเท่าเทียม คุณมิเกลล่า และคุณมิเรียม อ๊อตโต อัครราชทูตเนเธอร์แลนด์ ผู้แทนสถานเอกอัครราชทูตเนเธอร์แลนด์ประจำประเทศไทย (Ms. Miriam Otto, Deputy Ambassador of the Netherlands to Thailand) กล่าวแสดงความยินดี จากนั้น นายอนุทิน มอบธงสัญลักษณ์ให้กับผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้ว่าราชการจังหวัด 76 จังหวัด และร่วมรับฟังการแลกเปลี่ยนมุมมองจากผู้แทนหน่วยงานต่าง ๆ ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับความเท่าเทียมในมิติต่าง ๆ ผ่านกิจกรรม Symposium Session : 5-Minute Talk "เสียงจากหลากมุมมอง 5 นาที แห่งความเท่าเทียม"

นายอนุทิน กล่าวว่า การร่วมเป็นพันธมิตรระหว่างกระทรวงมหาดไทยและสหประชาชาติประเทศไทยเป็นพลังที่สำคัญซึ่งแสดงให้เห็นถึงความร่วมมือที่เข้มแข็งระหว่างสหประชาชาติและรัฐบาลไทยในการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและความเท่าเทียมทางเพศ และย้ำว่า ประเทศไทยให้ความสำคัญในการส่งเสริมความเท่าเทียมและสิทธิมนุษยชนในการให้บริการสาธารณะให้กับประชาชน โดยเฉพาะในการดำเนินการตาม พรบ.แก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 24) พ.ศ. 2567 หรือที่เรียกว่า กฎหมายสมรสเท่าเทียม ซึ่งรับรองสิทธิในการสมรสสำหรับทุกคู่รัก ซึ่งวันนี้ เราทุกคนมารวมตัวกันเพื่อโอบรับความเท่าเทียมและยอมรับความรักในรูปแบบที่หลากหลาย

"กระทรวงมหาดไทยและกรมการปกครองภูมิใจที่ได้เป็นผู้ขับเคลื่อนโครงการนี้ในฐานะนายทะเบียนกลาง สำหรับการทำหน้าที่นายทะเบียนให้กับทุกความรักทั่วประเทศ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นที่แน่วแน่ในการให้บริการจดทะเบียนที่ยึดถือหลักการของความเสมอภาคและความเท่าเทียม และเราขอยืนยันความมุ่งมั่นของเราในการให้บริการจดทะเบียนสมรสอย่างราบรื่นและถูกต้องตามกฎหมายสำหรับทุกคู่รัก เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในระเบียบและระบบที่ให้คุณค่าแก่ความหลากหลายและเคารพศักดิ์ศรีของประชาชน ด้วยการตระหนักถึงพันธกรณีของไทยในฐานะประเทศใหม่ที่มีกฎหมายสมรสเท่าเทียม สอดคล้องเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะเป้าหมายที่ 5 ว่าด้วยความเท่าเทียมทางเพศ และเป้าหมายที่ 10 ว่าด้วยการลดความเหลื่อมล้ำ"

นายอนุทิน กล่าวในช่วงท้ายว่า กิจกรรมในวันนี้ไม่เพียงแค่ส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทยในระดับโลก แต่ยังสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในระบบการบริการที่มีความโปร่งใส เท่าเทียม และยุติธรรมอีกด้วย ซึ่งตนต้องขอขอบคุณสหประชาชาติประเทศไทย และทุกภาคส่วนที่ร่วมจัดกิจกรรม พร้อมทั้งให้คำมั่นว่า เราก้าวไปข้างหน้าร่วมกันด้วยความเชื่อมั่นว่า "ความรักไม่มีพรมแดน" และ "ความเท่าเทียม" คือสิทธิขั้นพื้นฐานที่ทุกคนควรได้รับอย่างเสมอภาคและเท่าเทียมกัน

ด้านนายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง กล่าวว่า กรมการปกครองในฐานะนายทะเบียนกลางได้เตรียมความพร้อมให้กับสำนักทะเบียนอำเภอ 878 แห่ง สำนักทะเบียนเขต กทม. 50 เขต และสถานเอกอัครราชทูต/สถานกงสุลไทยในต่างประเทศ 94 แห่ง เพื่อสอดคล้องกับ พรบ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 24) พ.ศ. 2567 หรือกฎหมายสมรสเท่าเทียม ที่จะมีผลใช้บังคับในวันที่ 23 มกราคม 2568 รวม 4 ด้าน คือ

1) ด้านระเบียบ โดยได้ร่างระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการจดทะเบียนครอบครัว (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2568 เพื่อรองรับการอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวระหว่างบุคคลเพศหลากหลาย ทำให้คู่รักสามารถหมั้นและสมรสกันได้ ซึ่งจะทำให้มีสิทธิ หน้าที่ และสถานะทางครอบครัวเท่าเทียมกัน และเสริมสร้างความเข้มแข็งของครอบครัวที่ก่อตั้งขึ้นระหว่างบุคคลทั้งสองฝ่าย

2) ด้านระบบ โดยได้มีการแก้ไขระบบทะเบียนสมรสและทะเบียนหย่า และมีการทดสอบระบบเรียบร้อยแล้ว รวมทั้งจัดเตรียมผลิตแบบพิมพ์ ใบสำคัญการสมรส (คร.3) และใบสำคัญการหย่า (คร.7) เพื่อรองรับการให้บริการที่เพิ่มสูงขึ้น

3) ด้านบุคลากร โดยได้จัดทำชุดความรู้และอบรมเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทะเบียนใน 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ ความรู้ด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด การปรับกรอบความคิดในการให้บริการประชาชน และการบริการที่เป็นสากลบนหลักความเสมอภาคและเท่าเทียม คำนึงถึงมารยาทสากลและหลักสิทธิมนุษยชน

4) ด้านการจัดกิจกรรม ได้แก่ กิจกรรม Kick Off ในวันนี้ และกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ที่จะจัดขึ้นพร้อมกันทั่วประเทศ ณ ที่ว่าการอำเภอ ทั้ง 878 แห่ง ในวันที่ 23 ม.ค. 68 ซึ่งเป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลบังคับใช้ เพื่อเฉลิมฉลองให้กับทุกความรักตามแนวคิด "กรมการปกครองยินดีเป็นนายทะเบียนให้กับทุกความรัก"

ทั้งนี้ พี่น้องประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่สายด่วนสำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง โทร. 1548 หรือที่ว่าการอำเภอ และสำนักงานเขต ทุกแห่งทั่วประเทศ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง