ระทึก! เพลิงปริศนาโหมไหม้ชุมชนย่านบางพลี หญิงป่วยจิตเวชหนีไม่ทันถูกไฟคลอกเสียชีวิตในบ้าน
วันนี้ (13 ม.ค. 68) เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านพักภายในชุมชนกลางซอยไพโอเนีย หมู่ที่ 2 และหมู่ที่ 6 ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ซึ่งส่วนใหญ่ปลูกเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวติดกันจำนวนหลายหลัง
เพลิงเกิดขึ้นที่บ้านหลังหนึ่งกลางชุมชนก่อนจะลุกลามอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้พักอาศัยและแรงงานประเทศเพื่อนบ้าน ต่างจะอพยพหนีตาย และขนข้าวของภายในบ้านพักไปยังพื้นที่ปลอดภัย
ด้านเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจาก อบต.บางโฉลง ต้องระดมรถดับเพลิงเกือบ 10 คัน พร้อมกับหน่วยบรรเทาสาธารณภัย ช่วยกันฉีดน้ำสกัดเพลิงไม่ไม้ลุกลามสร้างความเสียหายไปกว่านี้ ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมงครึ่ง จึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ทั้งนี้พบร่างหญิงอายุ 49 ปี เป็นผู้ป่วยจิตเวช ถูกไฟคลอกเสียชีวิตคากองเพลิงภายในบ้านพักของตัวเอง
นางสาวอ่อน อินสมบัติ หนึ่งในบ้านพักที่ถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหลัง ซึ่งเจ้าตัวถึงกับหลั่งน้ำตาร้องไห้ด้วยความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เธอบอกว่าบ้านพักเธอสิ่งของภายในบ้าน รวมถึงพระเครื่องและเครื่องไม้เครื่องมือที่ทำอาชีพเลี่ยมกรอบพระและสิ่งของต่าง ๆ แม้แต่เอกสารสำคัญถูกไฟไหม้จนหมดตัว ตอนเกิดเหตุตนเองออกไปทำงาน มีคนโทรมาบอกตอนโทรไปไฟยังไม่ถึงบ้านพอมาถึงก็ไหม้วอดทั้งหลังแล้ว
เช่นเดียวกับ นางลำจวน จันทร์อ่อน หนึ่งในบ้านพักที่ถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหลังเช่นกัน บอกว่าตนเองมีอาชีพเป็นแม้ค้าขายพัก ข้าวของเครื่องใช้ไฟไหม้ เสื้อผ้า ที่นอน ถูกไฟไหม้จนหมด แถมเงินสดกว่า 60,000 บาท ที่ขายผักได้ก็สะสมไว้ตั้งใจเพื่อจะเอาไปใช้หนี้สินที่หยิบยืมมา ตอนนี้ไม่เหลือเลย
ด้าน นาย ชอุ่ม แตงโสภา นายก อบต.บางโฉลง กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบและให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น ที่เกิดเหตุบ้านพักและห้องเช่าถูกไฟไหม้คร่าวๆ ประมาณ 10 หลัง ซึ่งขณะนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่และกำนันสำรวจครอบครัวผู้เสียหาย พร้อมทั้งจัดตั้วศูนย์พักพิงชั่วคราว ที่วัดบางโฉลงใน พร้อมเร่งจัดหาเครื่องนุ่งห่มและที่นอนหมอนมุ้ง รวมถึงอาหาร ทาง อบต. จะดำเนินการเรื่องอาหารการกินให้กับผู้ประสบภัย
ส่วน พ.ต.อ. ไพโรจน์ เพ็ชรพลอย ผู้กำกับ สภ.บางพลี ระบุว่า ต้นเพลิงเกิดขึ้นที่บ้านพักของผู้เสียชีวิต ซึ่งผู้เสียชีวิตอยู่บ้านเพียงลำพัง ส่วนสาเหตุยังไม่สามารถระบุได้ว่าเกิดจากอะไร สันนิฐานอาจมาจากไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งสาเหตุที่แน่ชัดจะต้องรอพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบอีกครั้ง พร้อมทั้งกำชับพนักงานสอบสวนเชิญผู้เกี่ยวข้องและพยานไปสอบปากคำที่สภอีกครั้ง
