พ่อค้ามะขามหวาน แปะภาพโป๊ะเปลือย ทั้งชาย หญิง รอบคัน เผยเป็นกลยุทธ์เรียกลูกค้า ตำรวจเข้าจับ ยึดป้าย สั่งปรับ 2,500 บาท
(13 ม.ค.68) พ.ต.อ.นวกฤต นวการพาณิชย์ ผกก.สภ.บ้านผือ จ.อุดรธานี รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ รพ.บ้านผือ ว่าพบรถกระบะเร่ขายมะขามหวาน ติดรูปโป๊ เปลือย รอบคันรถ ดูแล้วไม่เหมาะสม อยากให้เข้าตรวจสอบ
ร.ต.อ.วีรวัฒน์ มาตโสภา รอง สวป.สภ.บ้านผือ นำกำลังสายตรวจ 191 รุดไปตรวจสอบ พบรถกระบะคันดังกล่าว ติดรูปโป๊เปลือยของทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ไว้รอบโครงหลังคาทั้งด้านหน้าและด้านข้าง แต่จะใช้เทปสีขาวติดหน้าอกและอวัยวะเพศไว้เล็กน้อยเพื่อไม่ให้อุจจาดตา และมีภาพแจกทองลูกค้า พร้อมเขียนข้อความว่า
“มะขามหวานเพชรบูรณ์ แจกทองปีที่ผ่านมา กิโลละ 70/80 /120/150/180 ขอบคุณทุกท่านที่ให้การอุดหนุนด้วยดีตลอดมา”
โดยรถขายมะขามหวาน จอดอยู่ที่ลานจอดรถของโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัว พ่อค้า และ ภรรยา ไปสอบสวนที่โรงพัก
พ่อค้าให้การว่า ภาพลามกอนาจารเอามาจากอินเทอร์เน็ต แล้วนำไปให้ร้านทำป้ายไวนิล เพื่อเป็นการโพรโมตสินค้า เป็นจุดขายให้ลูกค้าสนใจมาซื้อสินค้าเท่านั้น ถ้าไม่ถูกต้อง ผิดกฎหมาย ก็จะปรับปรุง จะเอารูปภาพออกทั้งหมด เพราะพึ่งติดมา 2-3 วัน เป็นการกลยุทธการขายของแต่ละคน
นอกจากนี้ พ่อค้ายังบอกอีกว่า ตนเองทำโพรโมชัน ให้ลูกค้าที่ซื้อครบ 500 บาท จะได้คูปองชิงทอง 1 ใบ เขียน ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรลงกล่อง พอขายผลไม้หมดฤดูกาล ก็จะจับคูปองแจกรางวัลให้ลูกค้า รางวัลเป็นแหวนทองวงละ 3,000 บาท ซึ่งทำมา 3-4 ปีแล้ว ได้ผลตอบรับดี แต่ก็เคยมีคนท้วงติงถึงรูปโป๊เปลือยว่าไม่เหมาะสม แต่ก็มองเป็นเรื่องขำขัน มองได้ 2 แง่มุม ไม่ได้คิดอะไรมาก
ส่วนทางด้านภรรยา บอกว่า เห็นสามีเอามาติด ก็เตือนแล้วว่าจะเป็นการละเมิด พรบ.คอมพิวเตอร์ แต่สามีบอกว่าเป็นจุดขาย ส่วนมากสามีจะพาไปขายตามตลาดนัด แต่วันนี้มาที่หน้าโรงพยาบาล สามีเอาภาพใหญ่มาติดใส่หลังคาด้านหน้ารถ ซึ่งปกติจะติดแค่ข้างรถเท่านั้น ก็ยอมรับว่ามันผิด และมาถูกชาวบ้านแจ้งตำรวจจับ
พ.ต.อ.นวกฤต นวการพาณิชย์ ผกก.สภ.บ้านผือ ได้สั่งให้ตำรวจดึงภาพโป๊ เปลือย ลามก อนาจารออกจากรถ ซึ่งมีการปิดทับรูปเก่าอีก 2 แผ่น รวม 6 แผ่น และยังพบภาพใหญ่ซุกซ่อนอยู่ที่หน้ารถ 5 แผ่น รวม 11 แผ่น จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน แจ้งข้อหามีความผิดมาตรา 388 “ผู้ใดกระทำการอันควรขายหน้า ต่อหน้าธารกำนัล โดยเปลือยหรือเปิดเผยร่างกาย หรือกระทำการอันลามกอย่างอื่น ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท” โดยสั่งปรับ 2,500 บาท เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
