ห้องข่าวภาคเที่ยง - คลื่นลมอ่าวไทย ลดกำลังลงแล้ว แต่ก็ยังแรง ซัดเข้าชายฝั่ง กัดเซาะตลิ่งรีสอร์ตที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ใกล้พังลงทะเล ขณะที่ชายฝั่งอำเภอระโนด จังหวัดสงขลา ชาวบ้านต้องช่วยกันทำแนวป้องกันคลื่น
คลื่นอ่าวไทย ยังสร้างความเสียหาย
ทีมข่าว 7HD ภาคใต้ ลงพื้นที่ตำบลท่าบอน อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา ซึ่งภาพมุมสูง เห็นได้ชัดเจนว่า เช้าวันนี้ คลื่นลมแม้ลดระดับความแรงลง แต่คลื่นก็ยังยกตัวข้ามข้ามเขื่อนซีเมนต์ป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง ที่ก่อสร้างโดยกรมเจ้าท่าเมื่อปี 2563 จนกัดเซาะหลังบ้านชาวบ้านที่อยู่หลังแนวหินกันคลื่น และกัดเซาะพื้นที่สาธารณะประโยชน์ เช่น ป่าช้า จนน้ำและทรายขึ้นไปถึงบนถนนในหมู่บ้าน
ชาวบ้านนำทีมข่าวไปดูพื้นที่หลังบ้าน ที่มีการนำหินมาทิ้งเป็นแนวกันคลื่น และชาวบ้านก็นำดินมากองไว้เป็นแนวกันคลื่นเช่นกัน
แต่แนวกันคลื่น บ้านบางหลัง ก็ไม่สามารถต้านทานความแรงของคลื่นได้ ซึ่งชาวบ้าน บอกว่า คลื่นลมที่ พัดแรงโถมเข้าชายฝั่งเมื่อ 1-2 วันก่อน ได้สร้างความเสียหายให้บ้านเรือนประชาชน และพื้นที่สาธารณะประโยชน์ในหมู่บ้าน โดยคลื่นได้ซัดแรง และยกตัวกัดเซาะแนวป้องกัน
ซึ่งผู้นำชุมชนและชาวบ้าน ร่วมกันนำถุงบิกแบ็ก บรรจุกระสอบทราย ไปวางเป็นแนวป้องกันคลื่นกัดเซาะเข้าถึงตัวบ้านชาวบ้าน ขณะที่บ้านบางหลังเจ้าของ ต้องย้ายหนีไปอาศัยบ้านญาติแล้ว นอกจากนี้ พื้นที่ฌาปนสถาน โดยเฉพาะเชิงตะกอนเก่า ที่ก่อนหน้านี้ถูกคลื่นซัดลงไปในทะเลแล้ว แต่ขณะนี้เชิงตะกอนใหม่ก็กำลังถูกน้ำทะเลกัดเซาะเช่นกัน
เจ้าของรีสอร์ต เร่งทำแนวกันคลื่น
ส่วนความเสียหายที่ชายฝั่ง อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช คลื่นกัดเซาะชายหาด หายไปมากกว่า 30 เมตร ส่งผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยว เนื่องจากกัดเซาะจนถึงห้องพักของรีสอร์ต และห้องพักบางหลังก็เริ่มทรุดตัว เจ้าของรีสอร์ต ต้องยอมควักเงินมากกว่า 200,000 บาท เพื่อว่าจ้างผู้รับเหมาให้นำหินขนาดใหญ่ มาทิ้งตามแนวชายหาด เพื่อกู้สถานการณ์ไม่ให้น้ำทะเลกัดเซาะไปมากกว่านี้
ส่วนที่แหลมตะลุมพุก อำเภอปากพนัง เช้าวันนี้สถานการณ์เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว โดยน้ำทะเลที่ท่วมชุมชนลดระดับเข้าสู่ภาวะปกติ คาดว่าในอีก 1-2 วันนี้ ชาวประมงก็จะออกทำประมงได้อีกครั้ง
