สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น รายงานว่า เมื่อเวลา 21.19 น. วานนี้ (13 ม.ค.) ตามเวลาในท้องถิ่น ซึ่งเร็วกว่าประเทศไทยราว 2 ชั่วโมง เกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 6.9 เขย่าภูมิภาคคิวชู ทางตอนใต้ของญี่ปุ่น ก่อนจะปรับลดระดับความรุนแรงลงมาที่ 6.6 โดยภาพจากกล้องวงจรปิดหลายแห่งในเมืองมิยาซากิ ซึ่งมีประชากรราว 400,000 คน เผยให้เห็นอาคาร บ้านเรือนสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง และมีการประกาศเตือนภัยสึนามิสูงไม่เกิน 1 เมตร ในจังหวัดมิยาซากิ และโคจิ ซึ่งต่อมามีรายงานคลื่นสึนามิสูงเพียง 20 เซนติเมตร พัดเข้าเมืองมิยาซากิ ก่อนจะประกาศยกเลิกเตือนภัยสึนามิ เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหายรุนแรงใด ๆ
สื่อท้องถิ่น รายงานว่า ยังไม่มีรายงานสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์อิกาตะ ทางตะวันตกของญี่ปุ่น หรือโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เซ็นไดในจังหวัดคาโกชิมะ เนื่องจากอยู่ใกล้กับจุดเกิดแผ่นดินไหวมากที่สุด
ส่วนที่ทิเบต เมื่อคืนที่ผ่านมา ศูนย์เครือข่ายแผ่นดินไหวของจีน รายงานว่า เกิดอาฟเตอร์ช็อกรุนแรง 2 ครั้ง จากเหตุแผ่นดินไหวขนาด 6.8 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยครั้งแรกระดับความรุนแรงอยู่ที่ 4.9 ในเขตติงรี เมื่อเวลา 20.57 น. ตามเวลาท้องถิ่น ห่างกันไม่ถึง 1 นาที เกิดอาฟเตอร์ช็อกรุนแรงขนาด 5.0 ตามมา โดยมีศูนย์กลางอยู่ห่างจากแผ่นดินไหวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเพียง 9 กิโลเมตร ลึกลงไปใต้พื้นดินเพียง 10 กิโลเมตร เบื้องต้น ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บ หรือเสียชีวิต
ส่วนเหตุแผ่นดินไหวในทิเบตเมื่อวันที่ 7 มกราคม ซึ่งถือเป็นแผ่นดินไหวรุนแรงครั้งที่ 5 ของจีน นับตั้งแต่แผ่นดินไหวที่เสฉวนเมื่อปี 2551 มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 126 คน บาดเจ็บ 338 คน ประชาชนกว่า 47,000 คน ต้องอพยพไปเต็นท์ที่พักชั่วคราว ท่ามกลางอุณหภูมิในเวลากลางคืนที่ลดลงต่ำถึง -15 องศาเซลเซียส