ห้องข่าวภาคเที่ยง - มีมติคณะสงฆ์ผู้ปกครองออกมาแล้ว จะออกหัวหรือก้อย กับแช็ตลับ คลิปเสียงเจ้าอาวาส พูดจาในเชิงชู้สาวกับอดีตแม่ชี มีการแฉถึงการบรรเลงเพลงสวาท ครั้งแรกที่ลานพญานาค
แช็ตลับ และคลิปเสียง ระหว่างเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งในอำเภอนิคมคำสร้อย จังหวัดมุกดาหาร กับแม่ชี ซึ่งตอนนี้เป็นอดีตแม่ชีแล้ว เนื้อหาพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องทางเพศ โดยกล่าวหาว่า พระพลมีสัมพันธ์ลึกซึ้ง ตั้งแต่เดือนเมษายน 2558 โดยครั้งแรกได้บรรเลงเพลงรักเริงสวาท บริเวณลานพญานาค ซึ่งอยู่ห่างจากกุฏิแม่ชี ประมาณ 50 เมตร ครั้งแรกนั้นเธอขัดขืน ต่อมาเหมือนตกกระไดพลอยโจน มีสัมพันธ์ลึกซึ้งเรื่อยมา
พระพลให้คำมั่นสัญญาว่า ถ้าอยู่ช่วยกันสร้างเจดีย์จนเสร็จ จะสึกออกไปแต่งงาน และยังมีหลักฐานเป็นแช็ตด้วย โดยเธอยืนยันจะแฉข้อมูลเอาให้ถึงที่สุด กระทั่งมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง
เจ้าอาวาสยอมรับว่า ทั้งแชตและคลิปเสียงเป็นของอาตมาจริง อ้างว่าแม่ชีป่วยทางจิต จึงยอมพูดคุยในลักษณะนั้น เพื่อเป็นการรักษา บอกว่า แม่ชีพยายามสร้างเรื่องเท็จ ทำให้วัดและพระเสื่อมเสีย
นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยหลังจากได้มีการตรวจสอบพระพล ได้ยอมรับว่าคลิปเสียงและแช็ตเป็นของตนเอง ทำให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง มีมติ ดังนี้ คือ
มีความผิดตามพระธรรมวินัย เป็นครุกาบัติ อาบัติสังฆาทิเสส ให้มีการลงโทษตามพระธรรมวินัย คือเข้าปริวาสกรรม แต่ไม่ถึงขั้นปาราชิก ที่จะต้องขาดจากความเป็นพระ ไม่สามารถกลับมาบวชได้, เห็นควรให้พระพล ออกจากวัดภายใน 7 วัน นับตั้งแต่รับทราบคำวินิจฉัย
ด้านพระพลน้อมรับคำสั่ง ยอมรับว่ามีการพูดหยอกล้อเย้าแหย่เรื่องชู้สาวจริง แต่ไม่เคยทำอาบัติปาราชิกด้วยกัน ซึ่งมติคณะสงฆ์ก็บอกว่าเป็นเพียงอาบัติสังฆาทิเสส และโลกวัชชะ เท่านั้น หากมีหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษร จะออกจากวัด เพื่อไปเข้าปริวาสกรรม ตามหลักพระธรรมวินัย
เช้าวันนี้ พระพลได้พูดคุยกับเหล่าแม่ชี และพระในวัด ซึ่งมีบางช่วงบางตอนได้อธิบายถึงโทษที่ตัวเองได้รับด้วยเสียงสั่นเครือ คือการถูกขับออกจากวัด
มีรายงานล่าสุด พระพลอยู่ระหว่างตัดสินใจจะขอลาสิกขา โดยขอปรึกษากับลูกศิษย์และญาติโยมที่เคารพศรัทธา แต่ยังไม่ระบุว่าวันไหน แต่ถ้ายังไม่ลาสิขา วัดที่รับพระพลไปจำวัด ต้องจับตาดูให้ดี โดยเฉพาะวัดที่มีแม่ชีบวช จะต้องจับตาเป็นพิเศษหรือไม่