ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ไปดูเรื่องของ "ผู้กองยอดรัก" ร้อยตำรวจเอกเจ้าเสน่ห์แอบคบซ้อนสาว 3 คน ชักปืนยิงขู่ สิบตำรวจตรี หลังระแวงว่าจะมาถ่ายคลิปที่อยู่กับแฟนสาวอีกคน ส่งให้แฟนอีกคนดู
กล้องวงจรปิดหน้าบ้านพักตำรวจในจังหวัดลพบุรี บันทึกเหตุการณ์ขณะที่ ร้อยตำรวจ เอกพงษ์ หรือ ผู้กองพงษ์ รองสารวัตรสืบสวน สภ.แห่งหนึ่งในจังหวัดลพบุรี ยืนอยู่หน้าห้อง โดยมีแฟนสาวยืนอยู่ตรงประตู หลังจากนั้น ผู้กองพงษ์ ได้ชักปืนยิง 1 นัด พร้อมตะโกนถามว่า "มึงเป็นใคร" เพราะเข้าใจว่า สิบตำรวจตรี ธนิตศักดิ์ หรือ หมู่จอห์น จะแอบมาถ่ายภาพว่าอยู่กับแฟนสาวอีกคนหนึ่ง จากนั้น หมู่จอห์น ขี่รถจักรยานยนต์มา พร้อมตอบว่า ผมซักผ้า แค่เอาผ้ามาตาก ส่วน ผู้กองพงษ์ ก็พูดจาข่มขู่ เดี๋ยวยิงให้กำแพงทะลุ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ช่วง 15.00 น. วันที่ 5 มกราคมที่ผ่านมา
ทีมข่าวพูดคุยกับ สิบตำรวจตรี ธนิตศักดิ์ หรือ หมู่จอห์น อายุ 24 ปี เล่าว่า ตนกับ ผู้กองพงษ์ อยู่โรงพักเดียวกัน ไม่เคยมีเรื่องกันมาก่อน สาเหตุที่เกิดขึ้น มาจากความเข้าใจผิด ผู้กองพงษ์ ระแวงว่าตนเป็นคนมาแอบถ่ายภาพขณะที่อยู่กับหญิงสาวในบ้านพักตำรวจ เพราะ ผู้กองพงษ์ มีภรรยาอยู่แล้ว ชื่อ นางสาวเก๋ แต่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน นอกจากนี้ ผู้กองพงษ์ ยังข่มขู่อีกว่าจะให้ผู้บังคับบัญชา สั่งย้ายภายใน 24 ชั่วโมง จึงไปแจ้งความเอาไว้
สอบถาม นางสาวส้ม แฟนสาวคนที่ 2 ของ ผู้กองพงษ์ ที่เพิ่งเลิกราไป บอกว่า สาเหตุเพราะจับได้ว่า ผู้กองพงษ์ แอบไปเคานต์ดาวน์กับ นางสาวอั้ม ผู้หญิงคนที่ 3 จึงมีปากเสียง จนเก็บข้าวของย้ายออกจากห้องพัก ทำให้ ผู้กองพงษ์ เข้าใจผิดคิดว่า สิบตำรวจตรี ธนิตศักดิ์ เป็นคนแอบถ่ายภาพมาฟ้อง ยืนยันว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับ สิบตำรวจตรีธนิตศักดิ์ แต่ที่จับได้ เพราะ เพื่อนของนางสาวอั้ม เป็นคนโพสต์ลงโซเชียลเอง
เมื่อผู้บังคับบัญชาทราบข่าวได้ เรียก ผู้กองพงษ์ และ สิบตำรวจตรี ธนิตศักดิ์ เข้าไปเคลียร์ใจกัน ซึ่ง ผู้กองพงษ์ ได้ขอโทษ และขอให้จบเรื่อง ผู้กองพงษ์ บอกว่า วันเกิดเหตุไม่ได้ยิงใส่ แค่ยิงไล่นกพิราบที่มาขี้บนหลังคา ส่วนเรื่องผู้หญิงยอมรับว่าก็มีบ้าง ตามสไตล์ตำรวจ แต่ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องใหญ่
ขณะที่ พันตำรวจเอก รัชพล ชนะศรีขจร รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี ชี้แจงว่า ขณะนี้ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี ได้สั่งตั้งชุดคณะกรรมการ ขึ้นมาตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน เบื้องต้นได้เตรียมสั่งให้ร้อยตำรวจเอกคนดังกล่าวมา ปฏิบัติหน้าที่ที่จุดอื่นชั่วคราว
